หมายถึง วงจรที่มี R - L - C ต่อกันอยู่ในแบบอนุกรม และแบบขนาน การคิดคำนวณค่าก็ให้คิดตามลักษณะของอนุกรม หรือขนาน แล้วแต่ลักษณะการต่อตามส่วนต่างๆ ของวงจร ตามตัวอย่าง
ภาพที่ 1 แสดงวงจร R - L - C ต่อแบบผสม
จากวงจร
จงหาค่า
1. กระแสที่ไหล I1,
I2 และกระแสทั้งหมด
2. มุมของเฟส (
q
)
3. เพาเวอร์แฟคเตอร์
( pf )
4. กำลังไฟฟ้าจริง ( P
) กำลังไฟฟ้าปรากฏ ( S
) และกำลัง ไฟฟ้าต้านกลับ ( Q
)
5.
เขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมของแรงดันและกระแส
วิธีทำ
ให้ส่วนที่กระแส I1 ไหลผ่านมีความต้านทานรวมเท่ากับ
Z1
Z1
= R - jXC
= 20 -
j25 Ω ( Rectangular Form)
= 32 Ð-51.3° Ω (Polar Form)
ให้ส่วนที่กระแส I2 ไหลผ่านมีความต้านทานรวมเท่ากับ
Z2 จะได้
Z2
= R + jXL
= 30 +
j40 Ω ( Rectangular Form)
= 50 Ð53.1° Ω (Polar Form)
1. หาค่ากระแสที่ไหล I1,
I2 และกระแสทั้งหมด
\
I1
= E / Z1
= 60 Ð0°
/ 32 Ð-51.3°
= 1.875 Ð51.3°
A (Polar Form)
= 1.17 + j1.46 A ( Rectangular Form)
I2 = E / Z2
= 60 Ð0°
/ 50 Ð53.1°
= 1.2 Ð-53.1°
A (Polar Form)
=
0.72 - j0.96 A ( Rectangular Form)
It = I1 + I2
= 1.17 + j1.46 + 0.72 - j0.96
= 1.89 + j0.5 A (
Rectangular Form)
= 1.96 Ð14.8°
A
(Polar Form)
นอกจากนี้เรายังสามารถหาค่ากระแสทั้งหมดได้จากสูตร
It
= EYt
Yt = Y1 + Y2
Y1 = 1 / Z1
= 1 / 32 Ð-51.3°
= 0.03125 Ð51.3°
S
= 0.01953 + j0.02438 S
Y2 = 1 / Z2
= 1 / 50 Ð53.1°
= 0.02 Ð-53.1° S
= 0.012 - j0.01599 S
\ Yt = 0.01953 + j0.02438 + 0.012 - j0.01599
= 0.03153 + j0.00839 S
= 0.03263 Ð14.8° S
ดังนั้น
It = 60
Ð0°
x
0.03263 Ð14.8°
= 1.96 Ð14.8° A
2. มุมของเฟส (
q
)
มุมของเฟส หมายถึง
มุมที่แตกต่างกัน ของแรงดันที่จ่าย กับกระแสทั้งหมด
มุมของแรงดันที่จ่าย
เท่ากับ 0 องศา
มุมของกระแสทั้งหมด
เท่ากับ 14.8 องศา
\
q
=
0 + 14.8 = 14.8°
นำหน้า
3. เพาเวอร์แฟคเตอร์
( pf )
Pf = cosq
= cos 14.8°
= 0.967
4. กำลังไฟฟ้าจริง ( P
) กำลังไฟฟ้าปรากฏ ( S
) และกำลัง ไฟฟ้าต้านกลับ ( Q
)
หากำลังไฟฟ้าปรากฏ
S = EIt
= 60 x 1.96
= 117.6 VA
หากำลังไฟฟ้าจริง
P = EItcosq
= 60 x 1.96 x 0.967
= 113.7 W
หากำลังไฟฟ้าต้านกลับ
Q = EItsinq
= 60 x 1.96 x sin 14.8°
= 60 x 1.96 x 0.255
= 30 VAR
5.
เขียนเฟสเซอร์ไดอะแกรมของแรงดันและกระแส
ภาพที่ 2 แสดงเฟสเซอร์ไดอะแกรมของแรงดันและกระแสของวงจร
หมายเหตุ
ในวงจรผสม
จำเป็นต้องแปลงค่าของพารามิเตอร์ต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบ Rectangular
Form และ Polar Form โดยรูปแบบ Rectangular
Form ใช้สำหรับนำค่ามาบวกและลบกัน ส่วน Polar Form ใช้สำหรับนำมาคูณ และหารกัน ซึ่งจะทำได้ง่ายกว่ารูปแบบอื่น
การหาค่าต่าง ๆ ในวงจร อาจสามารถหาได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและชำนาญการ ของแต่ละบุคคล
การหาค่าต่าง ๆ ในวงจร อาจสามารถหาได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและชำนาญการ ของแต่ละบุคคล
ความคิดเห็น