ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ดีเทอร์มิแนนท์

จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้                

             ดีเทอร์มิเนนท์ คือวิธีการหาค่าตัวแปรแบบหนึ่งในหลายๆวิธี โดยการนำค่าต่างๆ ในสมการที่ต้องการหาค่าตัวแปร มาจัดวางให้อยู่ในรูปแบบของเมทริกซ์และทำการหาค่าด้วยวิธีการตามขั้นตอน

     เมทริกซ์ คือกลุ่มของจำนวน ใดๆ เขียนเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือจัตุรัส กล่าวคือเรียงเป็นแถวในแนวนอน และเรียงเป็นแถวในแนวตั้ง เรามักเขียนเมทริกซ์เป็นตารางที่ไม่มีเส้นแบ่งและเขียนวงเล็บคร่อมตารางไว้ (ไม่ว่าจะเป็นวงเล็บโค้งหรือวงเล็บเหลี่ยม) เช่น

เราเรียกแถวในแนวนอนของเมทริกซ์ว่า แถว เรียกแถวในแนวตั้งของเมทริกซ์ว่า หลัก และเรียกจำนวนแต่ละจำนวนในเมทริกซ์ว่า สมาชิก ของเมทริกซ์ การกล่าวถึงสมาชิกของเมทริกซ์ จะต้องระบุตำแหน่งให้ถูกต้อง เช่น จากตัวอย่างข้างบน
สมาชิกที่อยู่ในแถวที่ 2 หลักที่ 3 คือเลข 4
สมาชิกที่อยู่ในแถวที่ 2 หลักที่ 2 คือเลข 15
สมาชิกที่อยู่ในแถวที่ 3 หลักที่ 1 คือเลข 5

ตัวอย่างที่ 1  หาค่าตัวแปร 2 ตัวแปร มีวิธีการทำ ดังนี้
จากสมการ     5I1 + 4I2 = 9…………………
                   10I1 + 5I2 = 6………………..
จงหาค่าของตัวแปร I1 และ I2
วิธีทำ
                 นำสมการมาเขียนให้อยู่ในรูปของเมทริกซ์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบ 3 ชุด ดังนี้
                  ชุดที่ 1  ประกอบด้วยค่าคงที่ของตัวแปรจากสมการ  (ใช้สำหรับหาค่าดีเทอร์มิแนนท์)
                  ชุดที่ 2  ประกอบด้วยตัวแปรที่ต้องการหาค่าในสมการ
                  ชุดที่ 3  ประกอบด้วยค่าคงที่ของค่าด้านขวามือของสมการ
โดยสมการแรกจะเขียนในแถวที่ 1 และสมการที่ 2 เขียนในแถวที่ 2 หากมี 3 สมการ ก็ให้เขียนเรียงลงไปในแถวต่อไป จากสมการตามตัวอย่างที่ 1 สามารถเขียนได้ ดังนี้


              เมื่อนำสมการมาเขียนให้อยู่ในฟอร์มของเมทริกซ์แล้ว ต่อไปก็ให้ทำการหาค่าดีเทอร์มิแนนท์ ดังนี้
        1.  หาค่าดีเทอร์มิแนนท์ โดยใช้ตัวเลขส่วนที่ 1 

โดยนำตัวเลขหลักที่ 1 มาคูณไขว้กับเลขหลักที่ 2 โดย คูณลง ค่าจะเป็น +  คูณขึ้น ค่าจะเป็นลบ และนำผลคูณของทั้ง 2 ชุด มารวมกัน
        ดังนั้น หากเราให้  D  แทน ดีเทอร์มิแนนท์ จะได้
D  = (5 x 5) – (10 x 4)
    = 25 – 40
    = -15

        2.   หาค่าดีเทอร์มิแนนท์ของ I1  โดยใช้ตัวเลขชุดที่ 3 ไปแทนหลักที่ 1 ของดีเทอร์มิแนนท์ และใช้วิธีการเดียวกับการหาค่าดีเทอร์มิแนนท์

        ดังนั้น หากเราให้  DI1  แทน ดีเทอร์มิแนนท์ของ I1 จะได้
DI1  = (9 x 5) – (6 x 4)
      = 45 – 24
      = 21

         3.   หาค่าดีเทอร์มิแนนท์ของ I2  โดยใช้ตัวเลขชุดที่ 3 ไปแทนหลักที่ 2 ของดีเทอร์มิแนนท์ และใช้วิธีการเดียวกับการหาค่าดีเทอร์มิแนนท์ 


       ดังนั้น หากเราให้  DI2  แทน ดีเทอร์มิแนนท์ของ I2 จะได้
DI2  = (5 x 6) – (10 x 9)
    = 30 – 90
    = -60

         4. จากนั้น ก็สามา
รถหาค่า  I1 และ I2 ได้ดังนี้

I1 = DI1 / D
   = 21 ÷ (-15)
   = -1.4 A

I2 = DI2 / D
   = -60 ÷ (-15)
   = 4 A

          5. ตรวจสอบคำตอบที่ได้ โดยนำไปแทนค่าในสมการใดสมการหนึ่ง 

แทนค่า  I1 และ I2 ในสมการที่ 1
                              5I1 + 4I2 = 9
                (5 x -1.4) + (4 x 4) = 9
                              -7 + 16 = 9
                                       9 = 9
         ผลลัพธ์ระหว่างเครื่องหมายเท่ากับ มีค่าเท่ากัน แสดงว่าคำตอบถูกต้อง
        5. ตรวจสอบคำตอบที่ได้ โดยนำไปแทนค่าในสมการใดสมการหนึ่ง

ตัวอย่างที่ 2  หาค่าตัวแปร 3 ตัวแปร มีวิธีการทำ ดังนี้
จากสมการ    7I1 + 3I2 + 4I3  = 15…………………
                         5I1 + 5I3  = 12………………..
                  5I1 + 4I2 + 3I3  = 13…………………
จงหาค่าของตัวแปร I1 , I2 และ I3
วิธีทำ

           นำสมการมาเขียนให้อยู่ในรูปของเมทริกซ์ ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบ 3 ชุด ดังนี้

 เมื่อนำสมการมาเขียนให้อยู่ในฟอร์มของเมทริกซ์แล้ว ต่อไปก็ให้ทำการหาค่าดีเทอร์มิแนนท์ ดังนี้
            1.  หาค่าดีเทอร์มิแนนท์ โดยใช้ส่วนที่ 1 แต่ให้นำหลักที่ 1 และ 2 เพิ่มไปเป็นหลักที่ 4 และ 5
และนำเลขหลักที่ 1 , 2 และ 3 ในแถวที่ 1 คูณทแยงลงมา จะได้ค่าเป็นบวก และ นำเลขหลักที่ 1 , 2 และ 3 ในแถวที่ 3 คูณทแยงขึ้น จะได้ค่าเป็นลบ และให้นำค่าทั้งสองมารวมกัน ดังภาพ

   จะได้  D = (7 x 0 x 3) + (3 x 5 x 5) + (4 x 5 x 4) – (5 x 0 x 4) – (4 x 5 x 7) – (3 x 5 x 3)
              = 0 + 75 + 80 – 0 – 140 – 45
             = -30

          2.  หาค่าดีเทอร์มิแนนท์ I1 โดยใช้เลขชุดที่ 3 แทนหลักที่ 1 ของดีเทอร์มิแนนท์ และให้นำหลักที่ 1 และ 2 เพิ่มไปเป็นหลักที่ 4 และ 5 และหาค่าเหมือนการหาค่าดีเทอร์มิแนนท์ ดังภาพ

จะได้  DI1 = (15 x 0 x 3) + (3 x 5 x 13) + (4 x 12 x 4) – (13 x 0 x 4) – (4 x 5 x 15) – (3 x 12 x 3)
              = 0 + 195 + 192 – 0 – 300 – 108
             = -21

          3.  หาค่าดีเทอร์มิแนนท์ I2 โดยใช้เลขชุดที่ 3 แทนหลักที่ 2 ของดีเทอร์มิแนนท์ และให้นำหลักที่ 1 และ 2 เพิ่มไปเป็นหลักที่ 4 และ 5 และหาค่าเหมือนการหาค่าดีเทอร์มิแนนท์ ดังภาพ

   จะได้  DI2 = (7 x 12 x 3) + (15 x 5 x 5) + (4 x 5 x 13) – (5 x 12 x 4) – (13 x 5 x 7) – (3 x 5 x 15)
              = 252 + 375 + 260 – 240 – 455 – 225
              = -33

        4.  หาค่าดีเทอร์มิแนนท์ I3 โดยใช้เลขชุดที่ 3 แทนหลักที่ 3 ของดีเทอร์มิแนนท์ และให้นำหลักที่ 1 และ 2 เพิ่มไปเป็นหลักที่ 4 และ 5 และหาค่าเหมือนการหาค่าดีเทอร์มิแนนท์ ดังภาพ

จะได้  DI3 = (7 x 0 x 13) + (3 x 12 x 5) + (15 x 5 x 4) – (5 x 0 x 15) – (4 x 12 x 7) – (13 x 5 x 3)
                = 0 + 180 + 300 – 0 – 336 – 195
                = -51


  5. จากนั้น ก็สามารถหาค่า  I1 , I2 และ I3 ได้ดังนี้

I1 = DI1 / D
   = -21 ÷ (-30)
   = 0.7  A

I2 = DI2 / D
   = -33 ÷ (-30)
   = 1.1 A

I3 = DI3 / D
   = -51 ÷ (-30)
   = 1.7 A

6. ตรวจสอบคำตอบโดยการนำค่าที่หาได้ ไปแทนค่าในสมการใด สมการหนึ่ง เช่น
จากคำตอบ นำไปแทนค่าใน 
                   7I1 + 3I2 + 4I3  = 15
                 (7 x 0.7) + (3 x 1.1) + (4 x 1.7) = 15
                                      4.9 + 3.3 + 6.8 = 15
                                                       15 = 15

ผลลัพธ์ ค่าทั้งสองข้างของสมการมีค่าเท่ากัน แสดงว่าถูกต้อง

                       - โปรแกรมหาค่าตัวแปรของสมการ ด้วยดีเทอร์มิแนนท์   ออนไลน์





ความคิดเห็น