วิธีแปลงความต้านทานจากสตาร์เป็นเดลต้า
หาความต้านทานรวมที่จุดต่าง
ๆ เมื่อความต้านทานต่อแบบสตาร์
หาค่าความต้านทานรวมที่จุด AB
RAB = RC
+ RB = 10 + 5 = 15 W
หาค่าความต้านทานรวมที่จุด BC
RBC = RB
+ RA = 5 + 15 = 20 W
หาค่าความต้านทานรวมที่จุด CA
RCA = RA
+ RC = 15 + 10 = 25 W
จากวงจร RA RB
และ RC ต่อกันอยู่แบบสตาร์ เราสามารแปลงให้อยู่ในรูปเดลต้าได้ ดังภาพ
เมื่อแปลงเป็นเดลต้า
เราสมมติให้กลายเป็น R1 R2
และ R3
โดยเราสามารถหาค่า ความต้านทานแต่ละตัวที่แปลงมาเป็นแบบเดลต้าได้จาก
ความต้านทานที่แปลงจะเท่ากับผลบวกของผลคูณของความต้านทานแต่ละคู่ในวงจรสตาร์ทั้งหมด
หารด้วย ความต้านทานแบบสตาร์ตัวที่ไม่ได้ต่อกับความต้านทานแบบเดลต้า
จากภาพวงจรด้านบน
ถ้าเราให้ ความต้านทานแบบสตาร์ (RS) เท่ากับ ผลบวกของผลคูณของความต้านทานแต่ละคู่ในวงจรสตาร์ทั้งหมด
จะได้ RS = (RA x RB) + (RB x RC)
+ (RC x RA)
\ ตามภาพในวงจร
จะได้
RS = (15 x 5)
+ (5 x 10) + (10 x 15)
= 75
+ 50 + 150
= 275 W
หลังจากนั้น ให้นำค่า RS มาหาค่าความต้านทานที่แปลงจากวงจรสตาร์
มาเป็นแบบเดลต้า โดนการนำ RS มาหารด้วยความต้านทานตัวที่ไม่ได้ต่อกับความต้านทานตัวที่แปลง จะได้ตามสูตร ดังนี้
R1 = RS
/ RA = 275 / 15 = 18.33 W
R2 = RS
/ RB = 275 / 5 = 55 W
R3 = RS
/ RC = 275 / 10 = 27.5 W
เขียนเป็นวงจรใหม่ได้ ดังนี้
หาความต้านทานรวมที่จุดต่าง
ๆ เมื่อความต้านทานแปลงมาต่อแบบเดลต้า
หาค่าความต้านทานรวมที่จุด AB
RAB =
(R2 + R3) // R1
= (55 + 27.5) // 18.33 = 82.5 // 18.33
= ( 82.5 x 18.33 ) / ( 82.5 + 18.33 ) =
1512 / 100.83
= 15 W
หาค่าความต้านทานรวมที่จุด BC
RBC =
(R1 + R2) // R3 = (18.33 + 55) // 27.5 = 73.3
// 27.5
= ( 73.3 x 27.5 ) / ( 73.3 + 27.5 ) =
2015 / 100.8
= 20 W
หาค่าความต้านทานรวมที่จุด CA
RCA =
(R1 + R3) // R2
= (18.33 + 27.5) // 55 = 45.8 // 55
= ( 45.8 x 55 ) / ( 45.8 + 55 ) =
2519 / 100.8
= 25 W
จะเห็นว่า
ความต้านทานรวมที่จุดต่างๆ ของสองวงจรก่อนแปลงและหลังแปลง มีผลลัพธ์เท่ากันทุกตำแหน่ง ตามหลักการของการแปลง
ข้อสังเกต ความต้านทานที่แปลงจากแบบสตาร์เป็นแบบเดลต้า จะมีค่าเพิ่มขึ้น
หากความต้านทานแบบสตาร์ทุกตัวมีค่าเท่ากัน ความต้านทานแบบเดลต้าจะเพิ่มขึ้นเป็นสามเท่าของความต้านทานแบบสตาร์ เท่ากันทุกตัว หรือเท่ากับความต้านทานแบบสตาร์คูณด้วย 3
ความคิดเห็น