การจัดเก็บข้อมูล
เมื่อเห็นความสำคัญของข้อมูลแล้ว
ทำอย่างไรจึงจะเก็บรักษาข้อมูลเหล่านั้นให้คงอยู่รวมถึงทำให้สามารถประมวลผลข้อมูลนั้นได้อย่างรวดเร็ว
โดยมากแล้วจะรวมไว้ในระบบฐานข้อมูล ซึ่งนำมาใช้ในการจัดเก็บ การเข้าถึง
และประมวลผลข้อมูล ข้อดีในการนำฐานข้อมูลไปใช้องค์กรหรือหน่วยงาน เช่น
การจัดเก็บอย่างมรประสิทธิภาพ
สามารถลดถาระการเก็บเอกสารเป็นกระดาษได้รวมถึงการทำซ้ำเพื่อสำรองข้อมูล
สามารถทำได้สะดวกและรวดเร็ว
การตอบสนองต่อความต้องการได้อย่างรวดเร็ว เช่น
ข้อมูลประวัติการบำรุงรักษารถยนต์ และข้อมูลประวัติคนไข้ ผู้ใช้ที่ต้องการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งาน
สามารถเข้าถึงระบบฐานข้อมูลและนำข้อมูลที่ต้องการไปใช้ได้
การจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลให้แก่ผู้ใช้ในแต่ละระดับขององค์กร
เช่น ผู้บริหารสามารถเข้าถึงข้อมูลของทุกหน่วยงานได้ แต่ผู้ใช้ทั่วไปในแผนกการเงิน
ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติของฝ่ายบุคคลได้ เป็นต้น
2.4.1 ลำดับชั้นของข้อมูลในฐานข้อมูล ก่อนจะกล่าวถึงลำดับชั้นของข้อมูลในฐานข้อมูลสิ่งแรกที่ต้องกล่าวถึงก่อน
คือ ลำดับชั้นล่างสุดของการแทนข้อมูล นั่นคือ การแทนข้อมูลด้วยตัวเลขฐานสอง
ซึ่งประกอบด้วยตัวเลขสองตัวคือ ‘0’ และ ‘1’ ในทางคอมพิวเตอร์ จะเรียกเลขฐานสองหนึ่งหลักนี้ว่า 1 บิต (bit) ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยเล็กที่สุดของข้อมูล
และหากนำบิตมาต่อกันเป็นจำนวน 8 บิต จะเรียกว่า 1 ไบต์ (byte)
ตัวอย่างการแทนข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ ดังรูป
1) เขตข้อมูล (field) เมื่อนำข้อมูลระดับบิตมาเรียงต่อกันเพื่อแทนข้อมูลใดๆ
ที่ต้องการเก็บในฐานข้อมูล
เราจะจัดข้อมูลที่เป็นบิตนี้มารวมกันเพื่อแทนความหมายบางอย่าง
หน่วยย่อยที่สุดที่มีความหมายในฐานข้อมูลนี้เรียกว่า เขตข้อมูล
โดยเขตข้อมูลอาจจะแทนข้อมูลดังตัวอย่างต่อไปนี้
จำนวนเต็ม (integer) คอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะเก็บตัวเลขขนาด 32 บิต
ซึ่งขนาดของตัวเลขนี้อาจเปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีของเครื่องคอมพิวเตอร์
ตัวเลขฐานสองขนาด 32 บิต
สามารถแทนตัวเลขจำนวนเต็มได้ตั้งแต่ -2,147,483,648 ถึง 2,147,483,647 (-231 ถึง 231 -1) แต่ถ้าเป็นเขตข้อมูลที่ระบุไว้ว่า เป็นตัวเลขที่ระบุเครื่องหมาย (unsigned
integer) เท่านั้น จะสามารถแทนตัวเลขจำนวนเต็มได้ตั้งแต่ 0 ถึง 4,294,967,295 (232 -1)
จำนวนทศนิยม
(decimal number) ในคอมพิวเตอร์
จะเก็บตัวเลขทศนิยม โดยใช้ระบบโฟลททิงพอยต์ (floating point) ซึ่งในการเก็บลักษณะนี้ ไม่มีการกำหนดตำแหน่งตายตัวสำหรับตำแหน่งของจุด
โดยทั่วไปการเก็บข้อมูลตัวเลขจะมีสองขนาดคือ 32 บิต
หรือ 64 บิต
ข้อความ (text) ในการแทนข้อความนั้น
จะต้องเปลี่ยนข้อความให้เป็นตัวอักขระแต่ละตัวเสียก่อน
ตามมาตรฐานโดยทั่วไปจะใช้เป็นรหัสแอสกี (ASCII code) ซึ่งต่อมามีการใช้รหัสแบบยูนิโคด(Unicode) ที่สามารถแทนภาษาได้หลายภาษามากกว่าแอสกี
ความยาวของเขตข้อมูลประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนตัวอักขระในข้อความ
วันเวลา (date/time) ข้อมูลที่เป็นวันเวลา เช่น วันที่เริ่มใช้งาน วันลงทะเบียน
และวันที่ซื้อสินค้า มีความแตกต่างจากข้อมูลประเภทอื่นๆ
ดังนั้นจึงต้องมีชนิดของข้อมูลเป็นวันเวลา
เพื่อรองรับเขตข้อมูลที่ต้องการเก็บข้อมูลเป็นวันเวลา
ไฟล์ (file) เขตข้อมูลบางประเภทใช้เก็บไฟล์รูปภาพหรือไฟล์อื่นๆ
ซึ่งเขตข้อมูลประเภทนี้จะเป็นเขตข้อมูลขนาดใหญ่
โดยปกติแล้วจะมีความยาวมากกว่าเขตข้อมูลประเภทอื่นๆ โดยเขตข้อมูลนี้จะเก็บข้อมูลในลักษณะเป็นบิตเรียงต่อกัน
ตัวอย่างการกำหนดชื่อและขนาดของเขตข้อมูล ดังรูปที่ 2.16
เขตข้อมูล
|
ตัวอย่างข้อมูล
|
ขนาดข้อมูล
|
รหัสนักเรียน
|
5200001
|
ตัวอักษร 7 ตัว
|
ชื่อ
|
ก่อเกียรติ
|
ตัวอักษร 30 ตัว
|
นามสกุล
|
รักชาติยิ่งชีพ
|
ตัวอักษร 30 ตัว
|
ที่อยู่
|
48/2 รามคำแหง กรุงเทพฯ
|
ตัวอักษร 50 ตัว
|
รูปที่
2.16 ตัวอย่างการกำหนดชื่อและขนาดของเขตข้อมูล
2) ระเบียน (record) คือ กลุ่มของเขตข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน
โดยเขตข้อมูลแต่ละส่วนอาจจะเป็นข้อมูลต่างชนิดกัน
ระเบียนแต่ละระเบียนจะประกอบด้วยโครงสร้างเขตข้อมูลที่เหมือนกัน ตัวอย่างระเบียน
ดังรูปที่ 2.17
เกร็ดน่ารู้
การเก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลขจำนวนจริงในเครื่องคอมพิวเตอร์จะเก็บตามมาตรฐาน IEEE
754 ซึ่งตัวอย่างของการเก็บข้อมูลจะเป็นดังนี้
20.65625 เมื่อแปลงเป็นเลขฐานสองจะได้ 10100.10101 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 0100.10101 x
2 จะถูกเก็บเป็น
รหัสนักเรียน
|
ชื่อ
|
นามสกุล
|
ที่อยู่
|
5200001
|
ก่อเกียรติ
|
รักชาติยิ่งชีพ
|
48/2 รามคำแหง กรุงเทพฯ
|
รูปที่
2.17 ตัวอย่างระเบียน
3) ตาราง (table) คือ กลุ่มของระเบียน
ซึ่งเขตข้อมูลในแต่ละระเบียนจะเก็บข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน
ในตารางจะเก็บข้อมูลหลายๆระเบียน แต่ละระเบียนจะมีโครงสร้างเหมือนกันในตาราง
นอกจากจะเก็บข้อมูลหลายระเบียนแล้ว ยังสามารถอ้างถึงระเบียนแต่ละระเบียนได้อีกด้วย
ตัวอย่างตารางข้อมูลนักเรียน ดังรูปที่ 2.18
รหัสนักเรียน
|
ชื่อ
|
นามสกุล
|
ที่อยู่
|
5200001
|
ก่อเกียรติ
|
รักชาติยิ่งชีพ
|
48/2 รามคำแหง กรุงเทพฯ
|
5200002
|
ก่อการ
|
รักชาติเหมือนกัน
|
20 พหลโยธิน กรุงเทพฯ
|
รูปที่ 2.18
ตัวอย่างตารางข้อมูลนักเรียน
4) ฐานข้อมูล (database) เป็นที่รวมของตารางหลายๆตารางเข้าไว้ด้วยกัน
ตารางแต่ละตารางจะมีความสัมพันธ์กันโดยใช้เขตข้อมูลที่เก็บข้อมูลซึ่งเหมือนกันเป็นตัวเชื่อมโยงระหว่างกันบางตารางอาจเป็นตารางที่เก็บข้อมูลไว้เฉพาะของตนเองโดยไม่เกี่ยวข้องกับตารางอื่น
ในขณะที่บางตาราง อาจต้องเชื่อมโยงกับเขตข้อมูลของตารางอื่นๆ
ตัวอย่างรูปของฐานข้อมูล แสดงไว้ในรูปที่ 2.19 ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเก็บข้อมูลของนักเรียน
มีตารางซึ่งเก็บข้อมูลของนักเรียน โดยมีเขตข้อมูลเป็น รหัสนักเรียน ชื่อ นักเรียน
นามสกุล และที่อยู่ และอีกตารางหนึ่งซึ่งเก็บข้อมูลสุขภาพของนักเรียน
โดยมีเขตข้อมูลเป็น รหัสนักเรียน ส่วนสูง น้ำหนัก และวันที่เก็บข้อมูล (วันที่วัด)
รูปที่
2.19 แสดงตัวอย่างฐานข้อมูลซึ่งส่วนหนึ่งใช้เก็บข้อมูลนักเรียน
มุมนักคิด 2.3
ถ้าต้องการฐานข้อมูลเพื่อเก็บข้อมูลภายในบ้าน
นักเรียนคิดว่า ในฐานข้อมูลนั้นจะประกอบด้วยตารางอะไรบ้าง แต่ละตารงประกอบด้วยเขตข้อมูลอะไร
ที่มา : https://sites.google.com/site/kruyutsbw/2-4-kar-cad-keb-khxmul
ความคิดเห็น