หลักการทำงาน
1. เมื่อมีกระแสไหลผ่านไส้หลอด
ทังสเตนจะทำงานที่อุณหภูมิสูงประมาณ 3000 องศาเคลวิน ภายในหลอดแก้วควอทซ์ ที่มีอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า
470 องศาเคลวิน ทำให้อนุภาคของทังสเตนระเหิดออกจากไส้หลอด
2. ระหว่างที่อนุภาคของทังสเตนซึ่งร้อน เคลื่อนที่ห่างจากไส้หลอด
ก็จะรวมตัวกับอนุภาคหรือโมเลกุลของสารฮาโลเจน เมื่อเคลื่อนที่เข้าใกล้ผนังแก้วควอทซ์มากขึ้น
ก็จะรวมตัวกับอนุภาคของสารฮาโลเจนมากยิ่งขึ้น
3. โมเลกุลที่เกิดจากการรวมกันของอนุภาคทังสเตนและสารฮาโลเจน
เมื่ออุณหภูมิต่ำลงจะกลายเป็นโมเลกุลที่ไม่มีเสถียรภาพ และวิ่งเข้าหาไส้หลอด ระหว่างที่วิ่งเข้าหาไส้หลอดอนุภาคของสารฮาโลเจนจะแยกตัวออกจากโมเลกุลใหญ่
เนื่องจากความร้อน
4. เมื่อเข้าใกล้หลอดมากขึ้น
อนุภาคของสารฮาโลเจนก็จะแยกตัวออกไปจนหมดเหลือแต่อนุภาคของทังสเตน วิ่งไปจับที่ไส้หลอด
การใช้งานหลอดฮาโลเจน
ต้องติดตั้งภายในดวงโคมสำหรับหลอดฮาโลเจนโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับกระเปาะแก้ว
ทั้งจากความชื้นและการสัมผัสกระเปาะแก้วโดยตรง ดวงโคมที่พบเห็นทั่วไปแสดงดังรูป ซึ่งไม่ว่าจะเป็นโคมรุ่นใด
โครงสร้างภายในแทบไม่ต่างกันโดยเฉพาะใช้กับหลอดชนิดยาวตรง
ข้อดีของหลอดฮาโลเจน
- คุณภาพแสงระดับสูงโดยมีค่าความถูกต้องของสีที่ยอดเยี่ยม
(Ra=100)
- ปรับค่าความสว่างของแสงได้อย่างเต็มที่
- ปรับค่าความสว่างของแสงได้อย่างเต็มที่
- หลอดไฟฮาโลเจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและโดดเด่นในการให้แสงสว่างเป็นพิเศษ
- หลอดไฟฮาโลเจนมีให้เลือกในหลากหลายขนาดและรูปทรง และออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับโคมไฟและการใช้งานแบบต่างๆ
- อายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดอินแคนเดสเซนต์แบบธรรมดา
- ไม่ต้องรอช่วงอุ่นตัว หลอดไฟฮาโลเจนเปล่งแสงสว่างเต็มกำลังในทันที
- หลอดไฟฮาโลเจนมีให้เลือกในหลากหลายขนาดและรูปทรง และออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับโคมไฟและการใช้งานแบบต่างๆ
- อายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดอินแคนเดสเซนต์แบบธรรมดา
- ไม่ต้องรอช่วงอุ่นตัว หลอดไฟฮาโลเจนเปล่งแสงสว่างเต็มกำลังในทันที
- สามารถรักษาค่าความส่องสว่างให้คงที่ได้ตลอดอายุการใช้งาน
โดยสรุป:
หากคุณกำลังมองหาวิธีที่รวดเร็วและง่ายดายที่สุดเมื่อต้องการเปลี่ยนแทนที่หลอดไฟแบบดั้งเดิมให้กับทุกจุดในบ้านของคุณ
และยังต้องการคุณภาพของแสงที่ส่องสว่างชัดเจนและอบอุ่น
หลอดไฟฮาโลเจนคือตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
ที่มา : ไฟฟ้าราชมงคลฯ
ความคิดเห็น