ไฟฟ้ากระแสสลับกับสามเหลี่ยมพีธาโกรัสสัมพันธ์กันอย่างไร
ตามทฤษฎีบทพีทาโกรัส (Pythagorean
theorem) เป็นอีกทฤษฎีบทหนึ่งที่กล่าวว่าในรูปสามเหลี่ยมมุมฉากใดๆ
กำลังสองของความยาวของด้านตรงข้ามมุมฉาก จะเท่ากับผลรวมของกำลังสองของความยาวของทั้งสองด้านที่เหลือ
ถ้าด้านตรงข้ามมุมฉากยาว c หน่วย และด้านประกอบมุมฉากยาว a
และ b หน่วย
ดังนั้นทฤษฎีบทนี้จึงให้ความหมายว่า
c2 = a2 + b2
ในการหาค่าต่างต่างทางไฟฟ้ากระแสสลับ ก็สามารถหาค่าต่างๆ
ได้ตามความสัมพันธ์ของสามเหลี่ยมมุมฉาก
นอกจากนี้ สามารถหาค่า sin
cos tan จากรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก ได้คือ
ส่วนความต้านทานเชิงซ้อนจะมีอยู่ 2 ค่า ซึ่งเกิดจากค่าความต้านทานของขดลวดเหนี่ยวนำ คือค่า XL ซึ่งมีมุมทางเวกเตอร์เท่ากับ 90 องศา และค่าความต้านทานของตัวเก็บประจุ คือค่า XC ซึ่งมีมุมทางเวกเตอร์เท่ากับ - 90 องศา สามารถเขียนเวกเตอร์ได้ตามรูปด้านล่าง
เนื่องจาก ค่า XL และ XC มีเฟสเซอร์ตรงกันข้ามจึงสามารถนำมาลบกันได้ โดยตรง จะเหลือเป็นค่า X ค่า จะมีมุมเท่าใดขึ้นอยู่กับค่าอะไรมากกว่า
หากค่า XL มากกว่าจะมีมุมเป็น 90
และหากค่า XC มากกว่าก็จะมีมุมเป็น -90
จึงสามารถเขียนเป็นรูปใหม่ได้ตามรูปด้านล่าง
ภาพเฟสเซอร์ไดอะแกรม แสดง XL มากกว่า XC
ภาพเฟสเซอร์ไดอะแกรม แสดง XL น้อยกว่า XC
เมื่อเหลือเป็นความต้านทานจริง
(R)
และความต้านทานเชิงซ้อน (X) แล้ว
เราจะสามารถนำมารวมได้เป็นความต้านทานทั้งหมดของวงจร Z
(Impedance) โดยการนำเวกเตอร์ของ R และ X มาเขียนต่อกัน จากนั้นให้ลากเวกตอร์จากจุดเริ่มต้นมาปิด
จะได้เวกเตอร์ของ Z
โดยทำมุมเป็น q
เกิดเป็นรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก จึงสามารถหาขนาดของ
Z
ได้ตามทฤษฎีบทพีธาโกรัส
ความคิดเห็น