ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การแปลงความต้านทานแบบสตาร์-เดลต้า

จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้

วงจรความต้านทานแบบสตาร์-เดลต้า

             การต่อความต้านทานแบบสตาร์-เดลต้า หมายถึงกลุ่มของความต้านทานจำนวน 3 ตัวที่ต่อกันอยู่ในลักษณะรูปแบบสตาร์ และแบบเดลต้า ซึ่งทำให้มองภาพของวงจรไม่อยู่ในลักษณะของวงจรอนุกรม หรือขนาน จึงทำให้ไม่สามารถรวมค่าความต้านทานได้ จำเป็นต้องทำการเปลี่ยนวงจรที่อยู่ในลักษณะสตาร์ให้เป็นเดลต้า หรือเปลี่ยนจากลักษณะเดลต้าให้เป็นสตาร์ ก็จะสามารถทำให้มองวงจรเป็นวงจรแบบอนุกรม หรือขนานได้ โดยที่ค่าความต้านทานที่จุดเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทำให้คุณสมบัติของวงจรไม่เปลี่ยนแปลงไป 

ภาพที่ 1 ลักษณะของวงจรความต้านทานต่อแบบเดลต้า


ภาพที่ 2 ลักษณะของวงจรความต้านทานต่อแบบสตาร์

             วงจรในลักษณะการต่อของวงจรสตาร์ และเดลต้าจะแฝงอยู่ในวงจรบริดจ์แบบไม่สมดุลย์แสดงตามภาพด้านล่าง

ภาพที่ 3 ลักษณะของวงจรบริดจ์ ที่มีกลุ่มความต้านทานแบบสตาร์-เดลต้า

                วงจรตามภาพที่ 3 เป็นลักษณะของวงจรบริดจ์แบบไม่สมดุลย์ ที่มีกลุ่มความต้านทานแบบสตาร์-เดลต้า อยู่ ซึ่งเป็นลักษณะที่เราไม่สามารถจะหาคุณสมบัติของวงจรโดยใช้กฎของโอห์มได้ แม้จะมีแหล่งจ่ายอยู่เพียงตัวเดียว เราต้องใช้วิธีอื่นในการหาค่า แต่หากเราต้องการใช้กฎของโอห์ม เราต้องทำการแปลงความต้านทานจากกลุ่มที่เป็นสตาร์ มาเป็นเดลต้า หรือเปลี่ยนจากกลุ่มที่เป็นเดลต้า มาเป็นสตาร์ อย่างใดอย่างหนึ่งแล้วแต่ความถนัด ในที่นี้จะทำเป็นตัวอย่างทั้ง 2 วิธี ดังนี้

            1. เปลี่ยนจากสตาร์เป็นเดลต้า

             ซึ่งถ้าเราดู กลุ่มที่เป็นสตาร์จะมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ R1, R2 และ R5 กับ R3, R4 และ R5  

ภาพที่ 4 แสดงกลุ่มความต้านทานแบบสตาร์ ในวงจรบริดจ์ ที่ตำแหน่ง ABC

             ในที่นี้เราจะเปลี่ยนกลุ่มของ  R1, R2 และ R5

วิธีทำ  1. หาค่าความต้านทานรวมแบบสตาร์
          ความต้านทานรวมแบบสตาร์เท่ากับ ผลบวกของผลคูณของความต้านทานแบบสตาร์ทุกคู่
          ถ้าให้      RS = ความต้านทานรวมแบบสตาร์
          จะได้      RS = (R1 x R2) + (R2 x R5) + (R5 x R1)
                          = (10 x 20) + (20 x 60) + (60 x 10)
                          = 200 + 1,200 + 600
                          = 2,000 W

        2. หาค่าความต้านทานที่แปลง 
ภาพที่  5 ภาพการแปลงความต้านทาน R1, R2 และ R5 เป็น RA, RB และ RC ( สตาร์ - เดลต้า)

           ความต้านทานที่แปลง จะเท่ากับ ความต้านทานรวมแบบสตาร์ หารด้วยความต้านทานแบบสตาร์ที่ไม่ได้ต่อกับความต้านทานที่แปลง
           ดังนั้น จะได้
          RA = RS / R5
              = 2,000  / 60
              =  33.33 W
          RB = RS / R2
              = 2,000  / 20
              =  100 W
          RC = RS / R1
              = 2,000  / 10
              =  200 W

     3. เขียนภาพวงจรใหม่ หลังจากแปลงค่าแล้ว และหาค่าความต้านทานรวม

ภาพที่ 6 วงจรหลังจากแปลงความต้านทาน R1, R2 และ R5 จากสตาร์ เป็น RA, RB และ RC แบบเดลต้า

หาความต้านทานรวม
               Rt = RA // ((RB // R3) + (RC // R4))
                   = 33.33 // ((100 // 30) + (200 // 40))
                   = 33.33 // ((3,000 ÷ 130) + (8,000 ÷ 240))
                   = 33.33 // (23 + 33.33)
                   = 33.33 // 56.33
                   = 1,877.5 ÷ 89.66
                   = 20.9 W

            2. เปลี่ยนจากเดลต้าเป็นสตาร์

             ซึ่งถ้าเราดู กลุ่มที่เป็นเดลต้า จะมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ R1, R3 และ R5 กับ R2, R4 และ R5 
ภาพที่ 7 แสดงกลุ่มความต้านทานแบบเดลต้า ในวงจรบริดจ์ ที่ตำแหน่ง ABC

           ในที่นี้เราจะเปลี่ยนกลุ่มของ  R1, R3 และ R5
วิธีทำ   1. หาค่าความต้านทานรวมแบบเดลต้า
          ความต้านทานรวมแบบเดลต้าเท่ากับ ผลบวกของความต้านทานแบบเดลต้าทุกตัว

          ถ้าให้      RD = ความต้านทานรวมแบบเดลต้า
          จะได้      RD = R1 + R3 + R5
                          = 10 + 30 + 60
                          = 100 W


        2. หาค่าความต้านทานที่แปลง


ภาพที่ 8 แสดงการแปลงความต้านทาน R1, R3 และ R5 เป็น RA, RB และ RC  (เดลต้า - สตาร์)

           ความต้านทานที่แปลง จะเท่ากับ ผลคูณของความต้านทานคู่ที่ต่ออยู่กับความต้านทานที่แปลง หารด้วยความต้านทานรวมแบบเดลต้า
          ดังนั้น จะได้
          RA = (R1 x R3) / RD
              = (10 x 30) / 100
              = 300 / 100
              =  3 W
          RB = (R1 x R5) / RD
              = (10 x 60) / 100
              = 600  / 100
              =  6 W
          RC = (R3 x R5) / RD
              = (30 x 60) / 100
              = 1,800  / 100
              =  18 W

 3. เขียนภาพวงจรใหม่ หลังจากแปลงค่าแล้ว และหาค่าความต้านทานรวม
ภาพที่ 9 วงจรหลังจากแปลงความต้านทาน R1, R3 และ R5 จากเดลต้า เป็น RA, RB และ RC แบบสตาร์
               หาความต้านทานรวม
               Rt = RA + ((RB + R2) // (RC + R4))
                   = 3 + ((6 + 20) // (18 + 40))
                   = 3 + (26 // 58)
                   = 3 + (1,508 ÷ 84)
                   = 3 + 17.9
                   = 20.9 W

        จะเห็นว่าผลลัพธ์ของความต้านทานรวม ในการแปลงความต้านทานทั้ง 2 วิธี ออกมาเท่ากัน คือ 20.9 W

        เมื่อได้ความต้านทานรวมแล้วก็สามารถนำไปหาค่าต่างๆ ของวงจรได้ต่อไป 


ความคิดเห็น