ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แนวทางการเลือกใช้หลอดไฟฟ้า

จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้

หลอดไฟฟ้า                    
           
หลอดไฟฟ้าที่มีใช้กันอยู่มีหลายชนิดด้วยกัน หลอดแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติทางแสงและทางไฟฟ้าต่างกัน ในการเลือกหลอดเพื่อการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ต้องเลือกหลอดที่มีประสิทธิผล (ลูเมนต่อวัตต์สูง อายุการใช้งานนาน และคุณสมบัติทางแสงของหลอดด้วย แต่งานบางอย่างก็ต้องเลือกใช้หลอดที่ไม่ประหยัดพลังงาน ฉะนั้นการนำหลอดไปใช้งานต้องพิจารณาความเหมาะสมในการนำไปใช้

2.1 ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกหลอดไฟฟ้า
         
การเลือกใช้หลอดไฟฟ้าเพื่อใช้งานต้องพิจารณาหลายๆองค์ประกอบร่วมกันก่อนที่จะนำไปใช้งาน
2.1.1 ค่าฟลั๊กซ์การส่องสว่าง (Luminous flux)
         หมายถึง ปริมาณแสงสว่าง หน่วยเป็นลูเมน       
2.1.2 ค่าประสิทธิผล (Efficacy)
         หมายถึง ปริมาณแสงที่ออกมาต่อวัตต์ที่ใช้ (ลูเมนต่อวัตต์หลอดที่มีค่าประสิทธิผลสูงหมายความว่าหลอดนี้ให้ปริมาณแสงออกมามากแต่ใช้วัตต์ต่ำ   
2.1.3 ความถูกต้องของสี (Color rendering)
         หมายถึง สีที่ส่องไปถูกวัตถุให้ความถูกต้องสีมากน้อยเพียงใด มีหน่วยเป็น เปอร์เซนต์ หลอดที่มีค่าความถูกต้อง 100% หมายความว่าเมื่อใช้หลอดนี้ส่องวัตถุชนิดหนึ่งแล้วสีของวัตถุที่เห็นไม่มีความเพี้ยนของสี
2.1.4 อุณหภูมิสี (Color temperature)
หมายถึง สีของหลอดเทียบได้กับสีที่เกิดเนื่องจากการเผาวัตถุดำอุดมคติให้ร้อนที่อุณหภูมินั้น เช่น หลอดอินแคนเดสเซนต์มีอุณหภูมิสีประมาณ 3000 องศาเคลวิน
2.1.5 มุมองศาในการใช้งานหลอด (Burning position)
หมายถึง มุมองศาในการใช้งานหลอด สำหรับการติดตั้งหลอดตามคำแนะนำของผู้ผลิต
2.1.6 อายุการใช้งาน (Life time)
หมายถึงอายุการใช้งานของหลอดโดยเฉลี่ยของหลอด หน่วยเป็นชั่วโมง









2.2 หลอดอินแคนเดสเซนต์
    
หลอดอินแคนเดสเซนต์เป็นหลอดที่ไม่ประหยัดพลังงาน      การใช้หลอดประเภทนี้ใช้เฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการวัตถุประสงค์ทางด้านความสวยงาม แสงสี หรือ กรณีที่ต้องการเน้นโดยที่หลอดอื่นทำไม่ได้ สามารถหรี่ไฟได้โดยง่าย ราคาถูก และจุดติดทันที
ก)   ถ้าจำเป็นต้องใช้หลอดประเภทนี้หลอดฮาโลเจนเป็นหลอดที่ประหยัดที่สุดในตระกูลนี้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นหลอดไม่ประหยัดพลังงานเมื่อเทียบกับหลอดชนิดอื่นๆ
ข)    กรณีที่จำเป็นต้องใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์ เราสามารถยืดอายุการใช้งานของหลอดได้โดยใช้สวิตช์หรี่ไฟ  สำหรับหลอดฮาโลเจน การหรี่ไฟอาจทำให้อายุการใช้งานสั้น
ค)        หลอดฮาโลเจนประหยัดกว่าหลอดอินแคนเดสเซนต์ทั่วไป    และมีอายุการใช้งานนานกว่าประมาณ 2-3 เท่า
ง)    ในการติดตั้งหลอดฮาโลเจน   หากมือไปสัมผัสด้านในทำให้หลอดมีอายุการใช้งานสั้น ถ้าเผลอไปจับถูกตัวหลอดให้ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์
จ)    หากหลีกเลี่ยงได้  ไม่ควรใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์หรือหลอดฮาโลเจนในการให้แสงสว่างมากนัก เนื่องจากค่าประสิทธิภาพผล (ลูเมนต่อวัตต์ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมาก
ฉ)        หลอดประเภทนี้ใช้กับงานส่องเน้น ซึ่งสามารถให้แสงเป็นวงหรือจุดได้ซึ่งหลอดประเภทอื่นให้ไม่ได้
ช)    หลอดประเภทนี้มีข้อดีกว่าหลอดประเภทอื่นในเรื่องการติดทันทีเมื่อป้อนไฟฟ้า และเมื่อแรงดันต่ำก็ยังให้แสงสว่างได้ แต่ปริมาณแสงอาจลดลง เหมาะสำหรับงานแสงสว่างฉุกเฉินที่มีสภาพการจ่ายไฟไม่ดี
ซ)        การใช้สวิตช์หรี่ไฟ   ให้ระวังเรื่องของฮาร์มอนิกที่อาจจะไปรบกวนเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ และมีเสียงฮัมที่สวิตช์หรี่ไฟ




ตาราง 2.1  คุณสมบัติโดยประมาณของหลอดชนิดต่างๆ

 

ชนิดของหลอดไฟ


คุณสมบัติของหลอด
ช่วงกำลังที่มี
(วัตต์)
ปริมาณแสงที่ให้
(ลูเมน, lm)
ความเข้มการส่องสว่าง
(แคนเดลา, Cd)
ประสิทธิภาพของการส่องสว่าง
(ลูเมน/วัตต์, lm/W)
อุณหภูมิสี
(เคลวิน, K)
ดัชนีความถูกต้องของสี
อายุการใช้งาน
(ชั่วโมง)
1. หลอดอินแคนเดสเซนต์
หลอดไส้ธรรมดา

15 - 200

90 - 3,150


5 - 12

2,500 - 2,700

100

1,000
# หลอดไส้ฟลักซ์การส่องสว่างสูง
ชนิดมีตัวสะท้อนแสง

25 - 300

210 - 1,300

180 - 40,000

8 - 13

2,500

100

1,000
# หลอดไส้ทังสเตน-ฮาโลเจน
แรงดันปกติ
แรงดันต่ำ

40 - 2,000
5 - 150

490 - 44,000
60 - 3,200

300 - 48,000
(เฉพาะที่มีตัวสะท้อนแสง)

12 - 22
12 - 22

2,800
3,000


1,500 - 3,000
2,000 - 3,000
2. หลอดปล่อยประจุความดันไอต่ำ
หลอดฟลูออเรสเซนต์ธรรมดา
ชนิดตรง (T8)
ชนิดกลม (T9)


10 - 58
22 - 40


450 - 4,600
1,350 - 2,800



45 - 80
60 - 70


2,700 - 6,500
2,700 - 6,500


60 - 80
60 - 80


8,000 - 10,000
5,000 - 8,000
# หลอดฟลูออเรสเซนต์ฟลักซ์การส่องสว่างสูง
ชนิดตรง (T8)
ชนิดตรง (T5)

18 - 58
14 - 54

1,300 - 5,200
1,300 - 5,200


73 - 93
90 - 93

2,700 - 6,500
2,700 - 6,500

80 - 90
80 - 90

8,000 - 10,000
10,000 - 12,000
# หลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์
ชนิดมีบัลลาสต์อิเล็คทรอนิกส์ในตัว
ชนิดมีบัลลาสต์แกนเหล็กในตัว
ชนิดไม่มีบัลลาสต์ในตัว

5 - 23
9 - 25
5 - 55

200 - 1,500
350 - 1,200
250 - 3,200


40 - 65
35 - 50
40 - 80

2,700 - 6,500
2,700 - 6,500
2,700 - 6,500

80 - 90
80 - 90
80 - 90

7,500 - 10,000
7,500 - 10,000
7,500 - 10,000
# หลอดโซเดียมความดันไอต่ำ
18 - 180
1,800 - 32,000

100 - 180
2,000
0 - 20
22,000 - 24,000
3. หลอดปล่อยประจุความดันไอสูง
หลอดไอปรอมแบบใช้บัลลาสต์
หลอดไอปรอทแบบไม่ใช้บัลลาสต์

50 - 1,000
80 - 160

1,800 - 58,000





30 – 60


3,000 - 4,200

40 - 60

20,000 - 24,000
# หลอดโซเดียมความดันไอสูง
35 - 1,000
2,400 - 130,000

70 - 130
2,000 - 2,200
30 - 50
18,000 - 24,000
# หลอดเมทัลฮาไลด์
35 - 2,000
2,400 - 240,000

60 - 120
2,900 - 6,000
60 - 90
8,000 - 15,000
หมายเหตุ  1. กรณีที่เลือกใช้หลอดของผลิตภัณฑ่ใดให้ยึดคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์นั้นเป็นเกณฑ์
2.     อายุการใช้งานในตาราง หมายถึง อายุการใช้งานที่กำหนดวิธีการทดสอบตามมาตรฐาน มอกหรือ IEC



ตาราง 2.2  การเลือกใช้งานหลอดแบบต่างๆ


ชนิดของหลอดไฟ

ลักษณะการใช้งานที่นิยมโดยทั่วไป
ให้แสงสว่างในบ้านพักอาศัย
ให้แสงสว่างในห้องสำนักงาน
ให้แสงสว่างฉายภายในอาคารสูง,โรงงาน
ให้แสงสว่าง
ภายนอกอาคาร
ให้แสงสว่างไฟถนน
ให้แสงสว่าง
ตกแต่ง ประดับ
ไปส่องอาคารส่องวัตถุสูง
ไฟส่องในระยะไกล
ไฟส่องสินค้าห้องแสดงสินค้า
ไฟแสงสว่างในห้องอาหาร
ไฟส่องสว่างในสนามกีฬา
ไฟส่องสว่างในที่สาธารณะ
1. หลอดอินแคนเดสเซนต์
หลอดไส้ธรรมดา

¡





¡



¡

¡


หลอดไส้ฟลักซ์การส่องสว่างสูง
ชนิดมีตัวสะท้อนแสง

¡

¡







¡

¡


หลอดไส้ทังสเตน-ฮาโลเจน
แรงดันปกติ
แรงดันต่ำ

¡







¡

¡

¡


2. หลอดปล่อยประจุความดันไอต่ำ
หลอดฟลูออเรสเซนต์ธรรมดา
ชนิดตรง (T8)
ชนิดกลม (T9)


¡


¡


¡


¡


¡





¡


¡



¡
หลอดฟลูออเรสเซนต์ฟลักซ์การส่องสว่างสูง
ชนิดตรง (T8)
ชนิดตรง (T5)


¡


¡


¡


¡


¡





¡


¡


หลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์
ชนิดมีบัลลาสต์อิเล็คทรอนิกส์ในตัว
ชนิดมีบัลลาสต์แกนเหล็กในตัว
ชนิดไม่มีบัลลาสต์ในตัว


¡


¡


¡


¡



¡





¡



¡
หลอดโซเดียมความดันไอต่ำ


¡
¡
¡







3. หลอดปล่อยประจุความดันไอสูง
หลอดไอปรอมแบบใช้บัลลาสต์
หลอดไอปรอทแบบไม่ใช้บัลลาสต์



¡

¡

¡







¡
หลอดโซเดียมความดันไอสูง


¡
¡
¡

¡
¡


¡
¡
หลอดเมทัลฮาไลด์


¡
¡


¡
¡
¡

¡
¡


2.3 หลอดปล่อยประจุความดันไอต่ำ

            หลอดปล่อยประจุความดันไอต่ำมี 3 ชนิดคือ หลอดฟลูออเรสเซนต์  หลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์ และหลอดโซเดียมความดันไอต่ำ

 

2.3.1  หลอดฟลูออเรสเซนต์
ก)   กรณีที่ใช้กับเพดานสูงเกินกว่า 5-7 เมตร หลอดประเภทนี้ไม่เหมาะเพราะต้องใช้จำนวนโคมมาก หรืออายุการใช้งานไม่มากพอ ทำให้ต้องเปลี่ยนหลอดบ่อย         ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องการบำรุงรักษามาก
ข)    ถ้าจำเป็นต้องใช้หลอดประเภทนี้ที่เพดานสูงเกินกว่า 7 เมตรเช่นที่ใช้ในหลืบ เป็นต้น อาจใช้หลอดและวงจรแรปิดสตาร์ท(Rapid start) ซึ่งมีอายุการใช้งานประมาณ 20000 ชมเมื่อเทียบกับหลอดอุ่นไส้(Preheat)ที่มีอายุการใช้งานโดยเฉลี่ย 8000-10000 ชม.
ค)   การใช้งานของหลอดฟลูออเรสเซนต์ควรเลือกสีหลอดใช้ให้ถูกต้องจะทำให้คุณภาพการให้แสงดีขึ้น สีของหลอดฟลูออเรสเซนต์มีทั้งหลอด เดไลท์ (6500 K) คูลไวท์ (4200- 4500 K) และวอร์มไวท์ (2700-3000K)
ง)         งานที่ต้องการความส่องสว่างสูงกว่า 500 ลักซ์ ควรใช้หลอดเดไลท์
จ)        งานที่ต้องการความส่องสว่าง 300-500 ลักซ์ ควรใช้หลอดคูลไวท์
ฉ)        งานที่ต้องการความส่องสว่างต่ำกว่า 300 ลักซ์ ควรใช้หลอดวอร์มไวท์
ช)    ความส่องสว่างกับชนิดสีของหลอดที่แนะนำให้ใช้เป็นพื้นฐานเท่านั้น บางครั้งอาจไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ดังกล่าว เช่นพื้นที่ใกล้เคียงกันควรใช้หลอดที่มีสีเดียวกัน ตัวอย่างได้แก่ บริเวณงานเลี้ยงในโรงแรมที่ใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์ และเมื่อเปิดประตูออกไปถึงอีกพื้นที่หนึ่งก็ควรใช้หลอดที่มีสีหลอดใกล้เคียงกัน อาจใช้หลอดวอร์มไวท์ เป็นต้น
ซ)    หลอดฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป หรือฮาโลฟอตเฟตเมื่อใช้งานไปนาน จะมีปริมาณแสงลดลง15-20%  ปัจจุบันมีหลอดฟลูออเรสเซนต์ฟลั๊กการส่องสว่างสูงได้แก่หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบไตรแบนด์ หรือไฟว์แบนด์ที่ให้ปริมาณแสงค่อนข้างคงที่ และมีสเปคตรัมสีดีกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์ธรรมดา
ฌ)       ประสิทธิภาพของหลอดฟลูออเรสเซนต์แบบต่างๆดังนี้
หลอดฟลูออเรสเซนต์ธรรมดา                              45-80  ลูเมนต์ต่อวัตต์
หลอดฟลูออเรสเซนต์ฟลั๊กการส่องสว่างสูง            73-93  ลูเมนต์ต่อวัตต์
(ไตรแบนด์ หรือไฟว์แบนด์)        
หลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์                          35-80  ลูเมนต์ต่อวัตต์
ญ)       หลอดฟลูออเรสเซนต์มีฮาร์มอนิกส์มากน้อยขึ้นอยู่บัลลาสต์ที่ใช้ร่วมกับหลอด


2.3.2  หลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์

ก)   ใช้กับโคมไฟส่องลงในกรณีให้แสงทั่วไป ถือว่าประหยัดพลังงานแสงสว่างได้มากเมื่อเทียบกับการใช้หลอดอินแคนเดสเซนต์ในโคมไฟส่องลง
ข)        ใช้แทนหลอดอินแคนเดสเซนต์และฮาโลเจนได้กรณีที่เป็นทางด้านการส่องสว่างทั่วไป
ค)   การเลือกใช้ชนิดสีของหลอดมีความสำคัญสำหรับงานแต่ละชนิด ถ้าเป็นความส่องสว่างต่ำก็ควรใช้หลอดที่มีอุณหภูมิสีต่ำ คือสีเหลือง หรือหลอดวอร์มไวท์ ถ้าเป็นความส่องสว่างสูงก็ควรใช้หลอดที่มีอุณหภูมิสีสูง เช่นหลอดคูลไวท์
ง)    การเปลี่ยนหลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์แทนที่หลอดอินแคนเดสเซนต์ในโคมไฟส่องลงให้ระวังเรื่องการระบายความร้อน ซึ่งทำให้อายุการใช้งานของหลอดสั้นลงมากและระวังเรื่องแสงบาดตา
จ)    บริเวณที่จำเป็นต้องปิดไฟไว้นานๆ เช่น ไฟรั้ว ไฟทางเดิน อาจใช้หลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งมีอายุการใช้งานนานกว่าหลอดอินแคนเดสเซนต์
ฉ)   แบบที่มีบัลลาสต์อิเล็กทรอนิกส์ในตัวจะมีฮาร์มอนิกส์สูง และในกรณีที่ต้องใช้หลอดจำนวนมากให้ระวังปัญหาเรื่องฮาร์มอนิก
ช)    หลอดคอมแพกต์ฟลูออเรสเซนต์ที่ใช้ในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปหรือต่ำเกินไป ทำให้ปริมาณแสงสว่างจากหลอดลดลงมาก  ดังนั้นถ้าใช้หลอดประเภทนี้ต้องพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะโคมที่มีการระบายอากาศไม่ดี เป็นต้น

2.3.3  หลอดโซเดียมความดันไอต่ำ
ก)        ใช้กับงานที่ไม่ต้องการความถูกต้องสี เช่นไฟถนน  งานส่องบริเวณ
ข)        หลอดประเภทนี้มีประสิทธิผลสูงสุด เมื่อเทียบกับหลอดทุกชนิด
ค)        ไม่ควรใช้กับงานที่ต้องการความถูกต้องสี เช่น บริเวณเบิกเงิน ATM เป็นต้น
ง)         ไม่ควรใช้กับงานที่ต้องเปิดหลอดและสว่างทันที เช่น งานทางด้านความปลอดภัย

2.4 หลอดปล่อยประจุความดันไอสูง
               
หลอดปล่อยประจุความดันไอสูงมี 3 ชนิดคือ หลอดโซเดียมความดันไอสูง  หลอดปรอทความดันไอสูง และหลอดเมทัลฮาไลด์  สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกใช้หลอดประเภทนี้
ก)   มุมองศาในการใช้งานหลอด (Burning position) การใช้งานของหลอดต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตซึ่งจะระบุไว้ไม่เช่นนั้นจะมีผลต่อ ประสิทธิผล และอายุการใช้งานของหลอด
ข)  แรงดันของแหล่งจ่ายไฟ (Supply voltage) ของหลอดประเภทนี้จะต้องไม่มากหรือน้อยเกินกว่า 5% เพราะจะมีผลต่ออายุการใช้งานและอุณหภูมิสีของหลอด
ค)   อุปกรณ์ประกอบ เช่น บัลลาสต์ อิกไนเตอร์วงจรการต่อต้องใช้ให้เหมาะสม มิฉะนั้นจะมีผลต่ออายุการใช้งานของหลอด การจุดติด เป็นต้น
ง)    หลอดประเภทนี้ให้แสงสีที่ถูกต้องตามคุณลักษณะของหลอดหลังจากใช้งานไปแล้วประมาณไม่น้อยกว่า 100 ชม.
จ)        ไม่ควรใช้กับงานที่ต้องการการเปิดหลอดและสว่างทันที เช่น ระบบไฟฟ้าแสงสว่างฉุกเฉิน

2.4.1  หลอดปรอทความดันไอสูง
ก)      ใช้แทนหลอดฟลูออเรสเซนต์กรณีที่ใช้กับเพดานสูงๆ
ข)    ประสิทธิผลของหลอดประเภทนี้ต่ำที่สุดในตระกูลหลอดปล่อยประจุความดันไอสูง ระบบที่ใช้หลอดนี้ถูกที่สุดในตระกูลหลอดปล่อยประจุความดันไอสูง เหมาะสำหรับใช้กับงานประเภทโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป แสงสว่างสาธารณะที่ต้องการความถูกต้องสี เช่น ไฟถนน ไฟสาธารณะ บริเวณร้านค้า

2.4.2  หลอดโซเดียมความดันไอสูง
ก)     ใช้กับงานที่ไม่พิถีพิถันเรื่องความถูกต้องของสี เช่น โรงงานเหล็ก เป็นต้น
ข)    งานที่เหมาะใช้กับหลอดประเภทนี้ได้แก่ โรงงานที่ไม่มีปัญหาเรื่องความถูกต้องของสี ไฟส่องบริเวณที่ไม่ใช่ย่านธุรกิจ ไฟถนน ไฟสวนสาธารณะ
ค) หลอดโซเดียมความดันไอสูงบางประเภทได้มีการพัฒนาให้มีค่าความถูกต้องของสีสูงและเหมาะใช้กับงานได้กว้างขวางขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาคุณสมบัติของหลอดเป็นประเภทไป
ง)         ประสิทธิผลของหลอดประเภทนี้สูงที่สุดในตระกูลหลอดปล่อยประจุความดันไอสูง
จ)      หลอดประเภทนี้ให้สีเหมาะสำหรับงานทางด้านความปลอดภัย เพราะตามีความไวต่อการมองเห็นที่โทนสีเหลือง

2.4.3  หลอดเมทัลฮาไลด์
ก)    ใช้กับงานที่ต้องการความถูกต้องสีมาก เช่น งานพิมพ์สี งานส่องสนามกีฬา และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
ข)       ระวังการใช้หลอดขนาดวัตต์ต่างกันในพื้นที่เดียวกันเนื่องจากสีอาจมีความแตกต่างกัน

 

หมายเหตุ

-      กรณีเพดานไม่สูงกว่า 5 เมตรควรใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์
-      กรณีเพดานอยู่ระหว่าง 4-7 เมตรควรใช้หลอดหลอดปล่อยประจุความดันไอสูงแต่โคมเป็นชนิดโลเบย์
-      กรณีเพดานสูงกว่า 6 เมตรควรใช้หลอดหลอดปล่อยประจุความดันไอสูงแต่โคมเป็นชนิดไฮเบย์

ที่มา : http://www.tieathai.org/know/lamp/ch%202.htm

ความคิดเห็น