ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทความร้อน

จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้

              เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทความร้อน จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบต่างๆ ที่เหมือนกัน จะแตกต่างกันก็เพียงเฉพาะรูปร่างเท่านั้น ที่ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยส่วนประกอบ ดังนี้

             1. ขดลวดความร้อนหรือแผ่นความร้อน (Heater) เส้นลวดที่ใช้เป็นขดลวดความร้อนของเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้เรียกว่า  นิโครม (Nichrome) ซึ่งทำมาจากโลหะผสมระหว่าง นิกเกิล (Nickel) ประมาณร้อยละ 60 โครเมียม (Chromium) ประมาณร้อยละ 15 และเหล็ก (Iron) ประมาณร้อยละ 25 คุณสมบัติของขดลวดความร้อน จะมีความต้านทานสูงและจุดหลอมเหลวสูง ซึ่งทำให้ขดลวดไม่ขาดเมื่อเกิดความร้อนขึ้น  ลวดนิโครมจะมีความต้านทานมากกว่าลวดทองแดงประมาณ 50 เท่า

ขดลวดความร้อนแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ

1.1 แบบเปิด จะมีเฉพาะลวดนิโครม ที่มีลักษณะคล้ายลวดสปริง ไม่มีฉนวนหุ้ม ใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าราคาถูก ขาดง่าย เช่น ขดลวดความร้อนของเตาไฟฟ้า ไดร์เป่าผม เป็นต้น




1.2 แบบกึ่งปิด จะมีลักษณะเป็นลวดพันบนแผ่นทนความร้อนไมล่า และปิดทับบนล่างด้วยแผ่นไมล่าอีกครั้งหนึ่ง หรือบางแบบอาจปิดด้วยโลหะแผ่นอีกทีหนึ่ง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น แผ่นความร้อนแบบนี้จะมีความทนทานมากกว่าแบบเปิด แต่จะมีราคาแพงขึ้น เช่น แผ่นความร้อนของกาต้มน้ำแบบอัตโนมัติ




1.3 แบบปิด จะมีลักษณะเป็นลวดความร้อน ใส่ไว้ในท่อโลหะ โดยอัดฉนวนไฟฟ้าที่ไม่เป็นฉนวนความร้อน เพื่อกันไม่ให้แผ่นความร้อนแตะกับท่อโลหะ จากนั้นนำไปออกแบบให้ติดอยู่กับพื้นหรือส่วนที่ต้องการให้ความร้อนอีกครั้งหนึ่งตามลักษณะของอุปกรณ์ให้ความร้อนชนิดนั้น ซึ่งแผ่นความร้อนแบบนี้จะมีความทนทานในการใช้มากที่สุด แต่ราคาก็แพงที่สุดด้วย


2. สายไฟ (Power Cord) คือส่วนประกอบที่ทำหน้าที่นำไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายเข้าสู่เครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อให้อุปกรณ์นั้นทำงานได้ ลักษณะของสายไฟอุปกรณ์ไฟฟ้าจะมี 2 ลักษณะ คือ แบบต่อถาวร หรือ แบบถอดเข้าออกได้


               สายไฟ จะเป็นชนิด 2 เส้น หรือ 3 เส้น สำหรับอุปกรณ์ที่ต่อลงกราวด์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ โดยสายกราวด์ จะเป็นเส้นสีเขียว หรือเขียวคาดเหลือง


3. สวิตซ์ (Switch) คือส่วนประกอบที่ทำหน้าที่ตัดและต่อกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ไฟฟ้าสามารถทำงานหรือหยุดทำงานได้ เพื่อความสะดวกในการควบคุมกว่าการถอดหรือเสียบสายไฟของอุปกรณ์ไฟฟ้า
สวิตซ์ จะมีลักษณะเป็นหน้าคอนแทค ตัดและต่อทางเดินกระแสในวงจรไฟฟ้า



4. สวิตช์ความร้อนอัตโนมัติ (Thermostat) ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่  เทอร์โมสตัดประกอบด้วยแผ่นโลหะ 2 ชนิดซึ่งมีความสามารถในการขยายตัวต่างกันเมื่อได้รับความร้อน เรียกว่าแผ่นไบเมทอล เช่น แผ่นเหล็กกับทองแดงและแผ่นเหล็กกับทองเหลืองซึ่งเรียกว่าแผ่นโลหะคู่เช่นกรณีแผ่นโลหะคู่ที่ประกอบด้วยเหล็กและทองเหลือง  เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านแผ่นโลหะทั้งสองชนิดจะเกิดความร้อนขึ้น ทำให้แผ่นโลหะทั้งสองชนิดนี้เกิดการขยายตัวเกิดการโค้งงอขึ้น  ส่งผลให้หน้าสัมผัสหรือคอนแทกต์ที่ต่อวงจร แยกออกจากกัน




สวิตซ์ความร้อนอัตโนมัติจะมีลักษณะเป็นหน้าคอนแทค สำหรับตัดและต่อให้กระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลาที่เรายังเสียบปลั๊กไปอยู่ เพียงแต่จะควบคุมความร้อนให้ร้อนตามที่เราปรับตั้งค่าไว้ เพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน


ความคิดเห็น