ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การทำถั่วกรอบแก้ว

จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้

             วันนี้เจอเนื้อหาความรู้ที่เคยเขียนเผยแพร่ไว้เมื่อประมาณ 20 กว่าปี ซึ่งมีจำนวนคนดูประมาณ 20,000 กว่าครั้ง ซึ่งถือว่ามีจำนวนมากพอประมาณ และก็หายไปเนื่องจากเว็บไซต์ที่ให้บริการ หยุดบริการ วันนี้ 6 มีนาคม 2564 จึงได้นำมาลงอีกครั้งหนึ่ง ในห้องเรียนออนไลน์ By ครูตุ้ง ครับ

             ข้าพเจ้าได้รับการบรรจุแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นครูสอนที่โรงเรียนสารพัดช่างพิจิตร เมื่อ วันที่ 28 พฤษภาคม 2528 ขณะนั้นเงินเดือนเพียง 2,485 บาท เท่านั้น เนื่องจากขณะนั้นยังเป็นวัยรุ่นไม่รู้จักการสร้างเนื้อสร้างตัว หาเงินได้เท่าไรก็ใช้จนหมด สภาพทางบ้านก็ไม่ได้มีฐานะทางการเงินที่ดีเท่าไร จนกระทั่งโชคดีได้แต่งงานเมื่อปี พ.ศ. 2530 กับภรรยาซึ่งมีอาชีพเป็นพยาบาล  ขณะนั้นยังเป็นครูธรรมดาจน ๆ คนหนึ่ง  ภรรยาของข้าพเจ้าเป็นคนที่มีความขยัน จึงได้คิดหาอาชีพเสริมเพื่อหาเงินเพิ่มเติมใช้ในครอบครัว       ภรรยาของข้าพเจ้าจึงคิดถึงสมัยที่เคยมาเรียนระยะสั้นในแผนกอาหารที่โรงเรียนสารพัดช่างพิจิตร ซึ่งเรียนมาหลายอย่าง แต่ที่พอจะทำได้ง่าย ๆ คือ ถั่วกรอบแก้ว

             เมื่อข้าพเจ้าและภรรยาคิดได้แล้ว จึงได้เริ่มทำถั่วกรอบแก้วดู กระทะแรกพอน้ำแห้ง ด้วยความที่กลัวถั่วจะไหม้จึงรีบปิดไฟทันที จึงไม่ได้ถั่วกรอบแก้ว แต่กลายเป็นถั่วเคลือบน้ำตาลแทน แต่ก็เก็บความสงสัยไว้ว่าทำไมของเราถึงไม่สวยงามมีความแวววาว ข้าพเจ้าจึงได้ทดลองทำกระทะต่อไปอีก 2-3 ครั้ง จนสุดท้ายพอนำแห้งก็ได้เบาไฟลงและคนต่อไปเรื่อย ๆ ึงสังเกตเห็นน้ำตาลค่อย ๆ เยิ้มออกมา จึงได้พบเคล็ดลับของการทำถั่วกรอบแก้วให้มีความแวววาวได้

             เมื่อได้ดีแล้วจึงได้เริ่มนำไปแจกจ่ายเพื่อน หัวหน้าและเพื่อนบ้านใกล้เคียงลองกินดู ปรากฏว่ามีคนชอบและสั่งให้ทำให้มากมาย โดยสั่งกันเป็นกิโลเลยก็มี ขณะนั้นต้นทุนในการทำโดยใช้สัดส่วนตามที่บอกไว้ด้านล่างประมาณ 25 บาท ทำได้ถั่วกรอบแก้ว 1 กิโลกรัม ขายได้ 60 บาท กำไรดีจริง ๆ  นะจะบอกให้  

           สาเหตุที่ข้าพเจ้าได้นำอาชีพนี้มาเผยแพร่ เนื่องจากข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นอาชีพที่สามารถทำได้ไม่ยากนัก และทุกคนที่มีความตั้งใจจริงที่จะทำ จะสามารถเริ่มหัดทำได้ด้วยตนเองที่บ้านอย่างแน่นอน

วัสดุที่ใช้
รายการ จำนวน
1. ถั่วลิสงเม็ดใหญ่ 1/2 กก.
2. น้ำตาลทราย 1/2 กก.
3. น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
4. เกลือ 1 ช้อนชา
5. โอวัลติน หรือ ไมโล  ตามชอบ 2 ช้อนโต๊ะ
6. งาขาว ตามชอบ

         หมายเหตุ  วัสดุสามารถปรับได้ ตามความชอบของแต่ละบุคคล เช่น น้ำตาล

วิธีทำ

       1. นำถั่วลิสงน้ำตาลทรายและน้ำ ใส่ในกระทะ (จากประสบการณ์การทำ ต้องใช้กระทะเหล็กหนาๆ อย่าใช้กระทะรุ่นใหม่แบบบางๆ เพราะตอนน้ำแห้งจะไม่สามารถคุมความร้อนได้ ทำให้น้ำตาลเยิ้มเร็วมาก) ใช้ไฟปานกลางถึงแรงเล็กน้อยเคี่ยวจนน้ำใกล้งวด (ประมาณ 15 นาที)ให้คอยคนกันน้ำตาลติดกระทะ

       2. เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำแห้งหมด  น้ำตาลจะตกทราย ให้ลดไฟเบา แล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำตาลเริ่มเยิ้มเล็กน้อย

       3. เมื่อน้ำตาลเริ่มเยิ้มพอประมาณให้ใส่เกลือ และโอวัลติน หรือไมโล  ตามชอบ ลงไป

       4.  เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลเยิ้มจนเคลือบถั่วเป็นเงาแวววาว จึงใส่งา และปิดไฟ

       5.  ยกลงและเทลงในภาชนะกระจายถั่วให้แยกจากกัน รอจนเย็น กรอบ

        6. บรรจุถุง นำไปจำหน่าย จ่ายแจก

ข้อควรระวัง
        สีของถั่วจะสวยหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการให้ไฟ ถ้าแรงเกินไปสีจะออกมาคล้ำ

               ข้าพเจ้าหวังว่าอาชีพนี้คงจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย หากมีปัญหาอะไรติดต่อได้ทุกเวลา      โทร. 08-5400-1222  

15 มกราคม 2548

ผู้สนใจถามมา

1. ทำไมถั่วที่ได้จึงไม่กรอบ

          สงสัยผู้ที่ถามคงใจร้อนมาก ทำเสร็จแล้วคงยังไม่รอให้ถั่วเย็นก่อน โทรถามทันที ต้องตอบว่าต้องรอให้เย็นก่อนถั่วจึงจะกรอบ แต่เคล็ดลับที่ผมใช้คือใช้พัดลมเป่าครับ

2. อยากจะเปลี่ยนจากถั่วเป็นเม็ดมะม่วงหิมพานต์จะได้ไหม

         อันนี้เป็นความคิดที่ดีมาก แต่เนื่องจากผู้เขียนยังไม่เคยลองทำ แต่คิดว่าน่าจะทำได้ แต่อาจจะมีเคล็ดลับอยู่บ้าง เหมือนกับเคล็ดลับในการทำถั่วกรอบแก้ว ที่ผมได้เขียนให้ผู้อ่านทราบแล้ว   อย่างไรแล้วลองทำกันดูได้ผลอย่างไรก็อย่าลืมบอกกันบ้าง ผมจะได้นำมาเป็นวิทยาทานให้ผู้อ่านต่อ ๆ ไป อย่างไรก็ขอให้ประสบความสำเร็จก็แล้วกันครับ หรือใครจะคิดทดลองเปลี่ยนไปนอกเหนือจากนี้ก็ได้ครับ

17 มีนาคม 2549

3. ทำหลายครั้งแล้วแต่รู้สึกว่าถั่วจะไม่สุก

         จากที่ได้สอบถามแล้วปรากฏว่าใช้ไฟอ่อนไปและทำเพียงแค่น้ำแห้งก็เรียบร้อย คือยังไม่เสร็จตามกระบวนการสุดท้าย ถั่วจึงอาจจะยังไม่สุกดีและไม่สวยงาม  อาจเป็นเพราะว่าผมใช้การบรรยายในการเขียนบทความนี้ ผู้อ่านหลายท่านจึงยังไม่สามารถจินตนาการเห็นภาพได้

          วันนี้ผมจึงลงทุนทำถั่วกรอบแก้วอีกครั้งหนึ่ง หลังจากห่างเหินมานาน เพื่อที่จะได้ถ่ายภาพนำมาให้ผู้อ่านได้ดูกัน แทนการจินตนาการตามคำบรรยาย ลองดูนะครับเผื่อคราวหน้าจะได้ทำสำเร็จซักที (อันนี้ทีเด็ด เคล็ดลับ ไม้รักกันจริง ไม่ถ่ายให้ดูกันชัด ๆ อย่างนี้ครับ)

ภาพที่ 1 ภาพนี้เริ่มคนได้แล้วครับ


ภาพที่ 2 คนไปเรื่อย ๆ อย่าพึ่งเมื่อย

ภาพที่ 3 น้ำแห้งหมดแล้วครับ คนไปเรื่อย ๆ เมื่อยก็พักไม่ได้

ภาพที่ 4 เบาไฟได้แล้วครับ ถ้าไฟยังแรงไป สังเกตควันจะมีมาก

ภาพที่ 5 คนไปเรื่อย ๆ น้ำตาลก็จะเริ่มเยิ้มออกมา ใส่เกลือ และโอวัลตินได้แล้ว

ภาพที่ 6 เยิ้มได้ที่แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายใส่งาลงไป (น่ากินจัง)

ภาพที่ 7 ปิดไฟเทใส่ถาดกระจายให้ทั่ว เปิดพัดลมเป่า เย็นกรอบแล้วแพ็คใส่ถุง

ภาพที่ 7 ปิดไฟเทใส่ถาดกระจายให้ทั่ว เปิดพัดลมเป่า เย็นกรอบแล้วแพ็คใส่ถุง

ส่งมาให้ลองชิมดูบ้างก็ได้นะครับ สวัสดีครับ

23 สิงหาคม 2549

           4. สอบถามว่าทำแล้วถั่วไม่มีความมันวาว และใช้เวลาในการทำประมาณ 2 ชั่วโมง ใช่หรือไม่

  ขอตอบว่าปกติจะใช้เวลาในการทำประมาณ 30 - 40 นาที ขึ้นอยู่กับการให้ความแรงของไฟ จากการสอบถามแล้วคิดว่าน่าจะเป็นการให้ความแรงไฟ ตอนถั่วแห้งแล้วน้อยไป เลยทำให้ความร้อนไม่พอที่จะทำให้น้ำตาลเยิ้มออกมาได้  จากประสบการการทำจะใช้เวลาในการทำช่วงน้ำแห้งถึงน้ำตาลเยิ้มจะใช้เวลาประมาณ 5 นาที น้ำตาลก็จะเยิ้มแล้ว หากน้ำตาลไม่เยิ้มแสดงว่าไฟอ่อนไป (ต้องใช้วิธีสังเกตหากไฟแรงไป จะเกิดกลุ่มควันลอยขึ้นมามาก และได้กลิ่นไหม้ครับ)

18 ธันวาคม 2549

            5. สอบถามเรื่องการใช้ความแรงไฟ

          สอบถามกันมากเรื่องการใช้ความแรงไฟ ผมเลยลองทำดูอีกครั้ง และลองจับเวลาในการทำดูด้วย และเรื่องต่าง ๆอย่างละเอียดดังนี้

          วัตถุดิบ

           ถั่วลิสง 1/2 กก.   น้ำตาลทราย  1/2 กก.  น้ำ 2 ถ้วยตวง( ใครไม่มีถ้วย ใช้ ขวดนมเด็ก มี เล็กกับใหญ่ เล็กขนาด 4 ออนซ์ ใช้ 4 ขวด  ขนาดใหญ่ 8 ออนซ์ ใช้ 2 ขวด)

           ใส่ทั้งหมดลงในกระทะ เปิดแก๊ส หากใครมี 3 ระดับ เปิดประมาณ ระดับ 2  ใช้เวลาประมาณ  10 - 15 นาที (ลักษณะจะเหมือนภาพที่ 1) ก็เริ่มคนได้แล้ว  คนต่อไปเรื่อย ๆ   ประมาณ 5 นาที น้ำก็จะแห้ง (ลักษณะจะเหมือนภาพที่ 3) คนต่อไปอีกประมาณ 2 นาที ก็จะมีลักษณะเหมือนภาพที่ 4 ให้เบาไฟลงมาประมาณ ระดับ 1 หรือน้อยกว่า  

            จากนั้นคนต่อไปอีกประมาณ 2 นาทีน้ำตาลก็จะเริ่มเยิ้ม (ลักษณะจะเหมือนกับภาพที่ 5) ให้ใส่เกลือ กับโอวัลตินลงไป คนต่อไป อีกประมาณ 3 นาที น้ำตาลก็จะเยิ้มจนเคลือบทั่วเม็ดถั่ว ให้ใส่งาคนให้คลุกเคล้ากันทั่วปิดไฟ

            เทใส่ภาชนะเปิดพัดลมเป่าให้เย็น ถั่วจะกรอบ

            รวมเวลาในการทำตั้งแต่ต้นจนเสร็จประมาณ 25 - 30 นาที ครับ  (อันนี้จับเวลาจริง ๆ )

            แต่ที่สำคัญที่สุดคือการสังเกตด้วยตัวเอง ซึ่งเทคนิคตามขั้นตอนต่าง ๆ ผมก็บอกให้จนหมดแล้วครับ ซึ่งตามที่ผมได้บอกไว้ผมไม่ได้ทำได้ดีที่สุดในกระทะแรกครับ รู้สึกจะประมาณกระทะที่ 3 เพราะเวลาผ่านมาประมาณ 20 ปีแล้ว แต่เมื่อทำได้แล้ว ทำเมื่อไรก็ได้เหมือนภาพถ่ายที่ถ่ายให้ดูครับ  ขอให้โชคดีปีใหม่ครับ

             เมื่อประมาณ ต้นปีผมได้รับโทรศัพท์จากชาวไทยที่อยู่ในต่างประเทศโทรมาสอบถามวิธีการทำ และเสนอแนะให้แปลวิธีการทำถั่วกรอบแก้วเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากมีคนสนใจ จึงขอฝากไว้หากมีท่านใดมีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ จะช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ ก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง เพื่อจะได้เผยแพร่สู่โลกกว้างอย่างแท้จริง

12 มกราคม 2550  

              6. เทคนิคการทำถั่วกรอบแก้วด้วยตนเอง

              ช่วงนี้ผมจะได้รับโทรศัพท์จากผู้สนใจโทรเข้ามาถามปัญหาต่าง ๆ หลายอย่าง ก็รู้สึกดีใจที่มีผู้สนใจในการทำถั่วกรอบแก้ว ก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่มีความพยายามทุกคนด้วยครับ 

              จากเนื้อหาที่ผมได้จัดพิมพ์ลงในเว็บไซต์ ผมคิดว่าก็มีความละเอียดพอสมควร จะมีปัญหามากที่สุดก็ตรงการเร่งความแรงของไฟที่จะมีปัญหามาก เนื่องจากการใช้เตาแก๊สต่างยี่ห้อกัน หรืออื่น ๆ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดอยู่ที่การสังเกตของผู้ทำเอง โดยดูจากเวลาประมาณ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการสังเกตสีของน้ำตาลขณะเคี่ยว  ให้สังเกตว่าจะมีสีน้ำตาลอ่อน และใส  แต่ถ้าเป็นสีน้ำตาลเข้ม ข้น และมีกลิ่นไหม้ แสดงว่าไฟแรงไป  ในการทำครั้งต่อไปก็ให้ลดไฟลงมา ก็จะได้ถั่วกรอบแก้วที่มีสีสวยงาม กลิ่นหอมน่ารับประทาน

               ส่วนในขั้นตอนของการให้น้ำตาลเยิ้มออกมาเคลือบถั่ว ก็ให้เยิ้มออกมาเคลือบทั่วถั่วผมก็ปิดไฟได้แล้ว บางท่านถามมาว่าถั่วติดกันแน่นมากเป็นก้อน เย็นแล้วก็ยังมีลักษณะเป็นยางเกาะกันแน่นก็อาจจะเป็นเพราะให้น้ำตาลเยิ้มมากจนเกินไปก็ได้ และอีกอย่างที่ทำให้ถั่วติดกันแกะไม่ออก คือตอนเทออกจากกระทะให้เกลี่ยถั่วให้บาง ๆ หน่อย เมื่อเย็นแล้วแค่ใช้มือกดถั่วก็จะแยกออกจากกันแล้วครับ

30 มกราคม 2550       

             ผมอยากจะทราบว่ามีผู้เข้าชมจำนวนเท่าใด เลยลองใส่ตัวนับดู ปรากฏว่าครบ 1 ปี มีจำนวนคนเข้าดู ประมาณ 2,300 กว่าคน รู้สึกยินดีที่มีผู้สนใจมากพอสมควร และมีผู้สนใจโทรมาสอบถามก็หลายราย ยินดีมากครับ

                                                                                                                                           25 มีนาคม 2551



ความคิดเห็น