ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ลักษณะของแสงภายในบ้าน

จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้
            สวัสดีครับหลังจากตอนที่แล้วที่ผม นำเสนอเรื่อง มารู้จัก...ประเภทหลอดไฟกันเถอะ เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักประเภทของหลอดไฟที่ใช้งานกันในปัจจุบัน มาคราวนี้ผมขอแนะนำถึงลักษณะแสงไฟที่ใช้ภายในบ้าน เพื่อเป็นความรู้เพิ่มเติมให้ท่านผู้อ่านสามารถนำไปเลือกใช้งานในการตกแต่งพื้นที่ต่างๆของบ้านได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
 
          ลักษณะการใช้แสงไฟในที่อยู่อาศัยนั้นเรามีหลักให้คำนึงถึง 2 ประการ คือ ลักษณะของคุณภาพและลักษณะของการกระจายแสง ซึ่งโดยทั่วไปลักษณะการกระจายของแสงจะมีอยู่ 3 ชนิดคือ

          - แสงที่ส่องออกมาอย่างสม่ำเสมอในทุกทิศทาง
          - แสงที่ส่องออกมาทางด้านใดด้านหนึ่ง และมีความฟุ้งกระจายเล็กน้อย
          - แสงที่ส่องออกมาและบีบเป็นลำแสง
          ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องเลือกลักษณะของการส่องสว่าง ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละส่วนของตัวบ้าน โดยเราอาจแบ่งลักษณะของการใช้แสงไฟในบ้านได้เป็น 3 ประเภทคือ
1. แสงไฟเพื่อใช้งานทั่วๆ ไป
          หลอดไฟที่นิยมใช้ในปัจจุบันนั้น ได้แก่ หลอดดาวน์ไลท์ หลอดซาลาเปา และหลอดฟูออเรสเซนซ์ หลอดเหล่านี้ ใช้กับการให้แสงสว่างโดยทั่วๆ ไปภายในบ้านและอาคาร โดยหลอดแต่ละประเภทนั้น มีความแตกต่างกันคือ

light
 
          หลอดดาวน์ไลท์ จะมีลักษณะเป็นกระบอกกลมๆ มีหลอดไฟอยู่ข้างใน ซึ่งหลอดไฟที่อยู่ข้างในท่านสามารถเลือกใช้เป็นหลอดแบบมีไส้ทั่วๆ ไป หรือหลอดตะเกียบประหยัดไฟก็ได้ หลอดดาวน์ไลท์จะบังคับแสงไม่ให้กระจายออกข้าง แต่จะส่องลงมาที่พื้น ทำให้พื้นทางเดินสว่าง ดังนั้นบนเพดานจะมองไม่เห็นแสงจากดวงโคมมากนัก แสงที่ได้จะสว่างนุ่มนวลตา ทั่วไปจะมี 2 สี คือ แสงขาว Day light และแสงเหลือง (แสงอบอุ่น) Worm light นิยมใช้ให้แสงสว่างภายในบ้านกันแพร่หลาย เพราะให้แสงที่สวย ทำให้บรรยากาศของบ้านดูอบอุ่น แต่ข้อเสียคือ ต้องใช้จำนวนหลอดต่อห้องมาก ไม่อย่างนั้นห้องจะมืด
          หลอดซาลาเปา มีลักษณะกลมๆ แป้นๆ จะให้แสงสีขาวกระจายรอบตัว เหมาะกับห้องที่ต้องการแสงสว่างสีขาวๆ เช่น ห้องอาบน้ำ ห้องทำงาน แต่ไม่เหมาะที่จะติดที่ห้องรับแขก เนื่องจากแสงไฟที่ห้องรับแขก ควรสีเหลืองๆ และนุ่มๆสบายตา แบบหลอดดาวน์ไลท์
          หลอดฟูออเรสเซนซ์ คือหลอดกลมๆ ยาวๆ แสงสีขาวที่เราใช้กันมานาน จะเหมาะกับห้องที่ต้องการใช้แสงสว่างมากๆ เพราะหลอดแบบนี้มีลักษณะกลมยาว จึงให้แสงสว่างไปทั่วห้อง เช่น ห้องครัว ห้องเก็บของ หรือ ในส่วนที่ค่อนข้างมืด และต้องการแสง เพื่อความปลอดภัย เช่น หลังบ้าน

light
 
2. แสงไฟเพื่อการใช้งาน
          แสงไฟพวกนี้ ได้แก่ ไฟอ่านหนังสือ เช่น ไฟตั้งโต๊ะและไฟตั้งพื้น เพราะในบางจุดท่านจำเป็นต้องได้แสงสว่างให้เพียงพอแก่การใช้งาน เช่น การอ่านหนังสือ ไฟที่ใช้อ่านหนังสือ มีหลักการเลือกแบบนี้ครับ เราไม่ควรเลือกแสงสีขาว หรือสีเหลืองจนเกินไป เพราะแสงแบบนี้จะแยงตาไม่เหมาะกับการอ่านหนังสือ

          ไฟตั้งโต๊ะและไฟตั้งพื้น เป็นทางเลือกที่เป็นที่นิยมกันมาก ทั้งสำหรับในส่วนทำงาน หรือเป็นไฟส่องสว่างทั่วไป และเป็นของแต่งบ้านได้ มีให้เลือกมากแบบทั้งสีสัน รูปทรง ดีไซน์ และขนาด ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะกับการตกแต่งได้ทุกแบบ
          โคมไฟตั้งโต๊ะ (Table Lamps) โคมไฟ ชนิดนี้ควรมีฐานที่หนักพอสมควร เพื่อจะตั้งได้อย่างมั่นคง และรับน้ำหนักของหลอดไฟและโคมได้ โคมไฟตั้งโต๊ะให้แสงที่นุ่มนวล การวาง โคมไฟตั้งโต๊ะ ไว้หลาย ๆ อันรอบห้อง จะให้แสงรวมกันเป็นการให้แสง เงา เฉพาะจุด เป็นการเลือกที่จะเน้นจุดเด่นในบางที่ ที่ให้ผลในการสร้างบรรยากาศอย่างมาก

light
 
          โคมไฟโต๊ะ ทำงาน (Desk Lamps) จุดประสงค์ของมันก็คือการให้แสงสว่าง ตรงไปยังบริเวณที่ต้องการโดยเฉพาะ รูปแบบที่ถือว่าเหมาะที่สุดสำหรับไฟที่โต๊ะทำงาน คือไฟที่ปรับขาตั้งได้ ทำให้ได้ทิศทางของแสงตามที่ต้องการ
          โคมไฟตั้งพื้น (Floor Lamps) โคมไฟแบบลอยตัว สำหรับตั้งพื้นช่วยในการเพิ่มระดับของการส่องแสงที่สว่างพอสำหรับกิจกรรม ต่าง ๆ เช่น การอ่านหนังสือ ส่วนมากมักจะใช้ไฟฮาโลเจน เพราะให้แสงที่สว่างกว่า รูปแบบก็มีทั้งแบบ โคมไฟ ที่มีขาตั้งแบบเก่า แบบที่ไฟส่องขึ้นข้างบน แบบที่ปรับมุมได้ หรือบางทีก็ใช้สปอตไลท์ตั้งบนขาตั้ง โคมไฟตั้งพื้น ไม่จำเป็นต้องสูงมาก แต่อาจจะเป็นไฟที่วางไว้บนพื้นในระดับต่ำ ๆ เพื่อส่องสว่างให้กับกลุ่มต้นไม้ที่ใช้ตกแต่งภายใน หรือ ของตกแต่ง ที่อยู่บนพื้น หรือเพียงแต่เพิ่มความรู้สึกให้กับแสง

light
 
          หลังจากทราบรายละเอียดของไฟตั้งโต๊ะและไฟตั้งพื้นแล้ว ยังมีอีกข้อสังเกตุหนึ่งสำหรับโคมไฟ อ่านหนังสือทั่วๆ ไป จะใช้หลอดไส้ แต่ตัวหลอดจะออกสีฟ้าๆ ที่เป็นแบบนี้เพราะ หลอดไส้จะให้แสงสีเหลือง พอแสงตัดกับผิวหลอดที่เป็นสีฟ้า สีจะเปลี่ยนเป็นเหลืองอ่อน

          หลักการที่สำคัญในการตั้งโคมอ่านหนังสือ คือจะต้องวางอยู่มุมซ้ายของหัวโต๊ะ เพื่อที่จะไม่ให้แสงตกกระทบมาแยงสายตาและเป็นการลบเงาที่เกิดขึ้นระหว่าง อ่านหรือเขียนหนังสือด้วย ถ้าต้องการข้อมูลโคมไฟ เพิ่มเติมเชิญอ่านได้ในคอลัม
เลือกโคมไฟแบบไหน ให้ไฉไลสุดสุด และ เลือกโคมไฟแบบไหน ให้ไฉไลสุดสุด (ภาค 2)
3. แสงไฟเฉพาะ
          แสงไฟแบบนี้ใช้เพื่อการตกแต่ง โดยเฉพาะเน้นเพื่อสร้างมิติของแสงเงาให้เกิดขึ้นในจุดต่างๆ ที่ต้องการ เช่น ไฟส่องภาพ หรืองานศิลปะ แสงที่เกิดจากหลอดไฟเหล่านี้มีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้บ้านมีชีวิติชีวา ทำให้เพิ่มน้ำหนักของสีสันภายในบ้านอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างส่องที่รูปภาพ เพื่อเป็นการสร้างความสนใจมาที่ภาพที่ท่านแขวนอยู่ภายในบ้าน

light
 
          ถ้าเน้นแสงสว่างด้วยหลอดฮาโลเจนจะเพิ่มความสวยงามของรูปภายมากขึ้น หลอดฮาโลเจนเป็นหลอดไฟที่ให้แสงเหลืองสว่างแรง ใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์มากที่สุด เมื่อเทียบกับหลอดไฟชนิดอื่นๆ หรือบางท่านที่มีต้นไม้ตกแต่งอยู่ตามมุมต่างๆ ภายในบ้าน ท่านลองใส่ไฟกระบอกที่ฐานของกระถางต้นไม้ แล้วปรับมุมให้พอเหมาะจะทำให้ต้นไม้ท่านเกิดแสงเงาอย่างสวยงาม

          มาถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านคงได้ ความรู้ในเรื่องลักษณะของแสงไฟที่ใช้ภายในบ้าน และรวมทั้ง ประเภทของหลอดไฟ จากคอลัมน์ก่อนหน้านี้ คงจะทำให้ท่านผู้อ่านเลือกที่จะใช้หลอดไฟ และลักษณะของแสงไฟ ไปเติมแต่งบ้านของท่านให้มีชีวิตชีวา และถูกต้องตามหลักการใช้งานนะครับ ตอนนี้ผมคงต้องขอตัวลาไปก่อน หวังว่าท่านผู้อ่านจะติดตามคอลัมน์ต่อไปของผมนะครับ เพราะจะมีความรู้ดีๆในการตกแต่งบ้านมาฝากอีกแน่นอนครับ.....สวัสดีครับ

ที่มา : 
http://www.bareo-isyss.com/62/62_light2.html

ความคิดเห็น