ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

หลักเกณฑ์ในการออกแบบระบบไฟฟ้า

จำนวนผู้เยี่ยมชมหน้านี้
            
               การออกแบบระบบไฟฟ้าสามารถทำการออกแบบได้หลายรูปแบบ ตามความสามารถ ความรู้และประสบการณ์ ของผู้ออกแบบแต่ละท่าน ซึ่งต้องอ้างอิงมาตรฐานต่างๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ของการออกแบบและติดตั้งที่จะต้องมีผลตามมาหลังจากการออกแบบเสร็จสิ้นลง
            ในการออกแบบที่ดี จึงต้องคำนึงถึงหลักสำคัญต่างๆ ดังนี้

            1. ความปลอดภัย (Safety)
                ความปลอดภัย นับเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของการออกแบบระบบไฟฟ้า ดังนั้นในการออกแบบระบบไฟฟ้า จึงต้องคำนึงถึงกฎและมาตรฐานต่างๆ ที่ใช้บังคับ สำหรับประเทศไทย มาตรฐานที่ใช้ในการติดตั้งไฟฟ้า ให้ใช้มาตรฐานของวิศวกรรมสถาน แห่งประเทศไทย

            2. ความเชื่อมั่นของระบบ (Reliability)
            การออกแบบระบบไฟฟ้า  จะต้องมีความเชื่อมั่นของระบบการป้องกัน เมื่อเกิดการขัดข้องของระบบ จะต้องมีระบบตัดตอนที่ดี เช่น การใช้อุปกรณ์ที่ได้การรับรองมาตรฐาน

            3. ความง่ายในการดัดแปลง (Flexibility)
            การออกแบบระบบไฟฟ้าที่ดีจะต้องมีความยืดหยุ่นสามารถดัดแปลงเพิ่มเติมระบบในอนาคตได้โดยสะดวกและสามารถรองรับระบบในอนาคตได้โดยสะดวกโดยไม่เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การเพิ่มโหลดได้โดยไม่ต้องรื้อระบบใหม่

            4. ความประหยัด (Economy)
การออกแบบระบบไฟฟ้าที่ดี ต้องคำนึงถึงความประหยัดภายใต้เงื่อนไขของความปลอดภัย ความเชื่อมั่น และความง่ายในการดัดแปลง หมายถึงผู้ออกแบบต้องพยายามออกแบบให้ประหยัดแต่ต้องอยู่ภายใต้กฎและมาตรฐานต่างๆ ของการออกแบบ การใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่มรมาตรฐาน ง่ายต่อการบำรุงรักษาและเปลี่ยนแปลง โดยปกติควรมีการบำรุงรักษาเพื่อป้องกันเหตุต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง ดังนั้นผู้ออกแบบระบบไฟฟ้าที่ดีจึงต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านการติดตั้งระบบไฟฟ้าเป็นอย่างดี จึงจะสามารถออกแบบระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

5. แรงดันตก (Voltage Drop)
ในการออกแบบระบบไฟฟ้าภายในอาคาร สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างหนึ่งคือ ค่าแรงดันไฟฟ้าตก เนื่องจากขนาดของโหลด และความยาวของสายป้อนและสายวงจรย่อยที่เดินไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมทั้งโหลดในอนาคตที่จะเพิ่มด้วย
แรงดันตกมักสร้างความเสียหายแก่อุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ตามมาตรฐานของไฟฟ้า และ NEC กำหนดแรงดันตกในช่วงของสายป้อนจะต้องไม่เกิน 3 % หากในส่วนของวงจรย่อยไม่เกิน 5 %

การพิจารณาในเรื่องแรงดันตกมักจะนำมาพิจารณาในกรณีที่สายป้อนหรือสายเมน มีระยะการเดินสายที่ยาวๆ เท่านั้น

ความคิดเห็น